fbpx

Leadership คืออะไร และเทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีทักษะการเป็นผู้นำ

สารบัญ
Leadership คืออะไร และเทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีทักษะการเป็นผู้นำ

Leadership คืออะไร และเทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีทักษะการเป็นผู้นำ

Leadership เป็นหนึ่งในทักษะสำคัญในชีวิตที่เด็กจะต้องเรียนรู้ และควรฝึกให้เด็กมีทักษะการเป็นผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งทักษะนี้คืออะไร? แล้วจะเสริมสร้างให้เด็กๆ มีทักษะนี้ได้อย่างไร ในบทความนี้ Speak Up มีคำตอบ! ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

Leadership คืออะไร?

Leadership คืออะไร?

Leadership หรือ ภาวะความเป็นผู้นํานั้น หมายถึง ความสามารถในการชี้นําและจูงใจ ผู้อื่นให้ทํางานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยผู้นําต้องมีวิสัยทัศน์ มีความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์ สื่อสารได้ดี ซึ่งสิ่งสําคัญที่ผู้นำควรมีคือความซื่อสัตย์ เป็นแบบอย่างที่ดี กล้าตัดสินใจ ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จึงจะสามารถนําพาทุกคนไปสู่ความสําเร็จได้อย่างราบรื่น

ทักษะการเป็นผู้นำ สำคัญต่อเด็กอย่างไร

ทักษะการเป็นผู้นำ สำคัญต่อเด็กอย่างไร

การมีทักษะการเป็นผู้นําจะช่วยให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก ไม่เก็บกดความรู้สึก และกล้าตัดสินใจ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความมั่นใจในตัวเองได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยฝึกให้เด็กรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ทํางานร่วมกับผู้อื่นได้ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้เพื่อนๆ โดยเด็กที่มีภาวะผู้นําจะสามารถนําทักษะนี้ไปต่อยอดในการเรียน การทํางาน และชีวิตประจําวันได้ในอนาคต เช่น กล้าแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน การทํางานร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้ดี หรืออาจพัฒนาเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ดีได้ ดังนั้น การส่งเสริมทักษะผู้นําให้เด็กตั้งแต่เล็กๆ  จึงเป็นสิ่งสําคัญมาก

5 Skill Leader ในเด็กควรมีอะไรบ้าง

วิธีตัดการกระดาษจีน

5 Leadership Skill มีอะไรบ้าง? โดยทั่วไปแล้ว ผู้ปกครอง หรือคุณพ่อคุณแม่ควรสอนหรือชี้นำเด็กๆ ให้มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำ ดังนี้

1. การสื่อสาร การปรับตัว และการเข้าสังคม (Context Management)

การสื่อสาร การปรับตัว และการเข้าสังคม (Context Management) เป็นทักษะที่ช่วยให้เด็กกล้าแสดงออก และเข้าสังคมกับผู้อื่นได้ดี เช่น กล้าแนะนําตัวเองกับเพื่อนใหม่ กล้าถามทางคนแปลกหน้า หรือแบ่งของเล่นให้เพื่อน ซึ่งจะช่วยให้เด็กเป็นผู้นําได้ดีในอนาคต

2. ความกล้าที่จะตัดสินใจเอง (Decision-Making)

ความกล้าที่จะตัดสินใจ (Decision-Making) จะช่วยให้เด็กกล้าคิด กล้าตัดสินใจเอง ไม่ถูกกระแสสังคมชักนำ เช่น กล้าเลือกทํากิจกรรมตามความสนใจของตัวเอง ไม่เลือกตามผู้อื่นเพราะกลัวไม่มีเพื่อน เป็นต้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอันดับต้นๆ ของการมีทักษะการเป็นผู้นำ

3. ความเห็นใจผู้อื่น (Empathy)

ความเห็นใจผู้อื่น (Empathy) เป็นทักษะที่จำเป็นอย่างหนึ่งใน Skill Leader โดยความหมายของ Empathy คือ ความสามารถในการมองเห็นมุมมอง และความรู้สึกของผู้อื่น เข้าใจความต้องการของผู้อื่นโดยไม่ตัดสิน ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เห็นเพื่อนเศร้า จะเข้าไปเล่นด้วยเพื่อปลอบใจ หรือการแบ่งขนมให้เพื่อนที่กำลังหิว ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้จะช่วยให้เด็กเป็นผู้นําที่เข้าใจผู้อื่น และช่วยเหลือผู้อื่นในอนาคตได้อย่างดี

4. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Agility)

ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Agility) คือความสามารถในการจัดการอารมณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยเด็กที่มีทักษะนี้ หากเกิดความโกรธ จะสามารถหยุดนิ่งสงบสติได้ และไม่ปล่อยให้การแสดงออกทางอารมณ์รุนแรงจนเกินไป จะช่วยให้เด็กเป็นผู้นําที่มีสติ อดทน ไม่หุนหันพลันแล่นตามอารมณ์นั่นเอง

5. ซื่อสัตย์ จริงใจ (Truthfulness)

การที่เด็กมีความซื่อสัตย์ (Truthfulness) จริงใจต่อตนเองและผู้อื่น กล้ายอมรับผิดเมื่อทําผิด จะช่วยให้ได้รับความเชื่อถือ และไว้วางใจจากผู้อื่น สามารถเป็นผู้นําได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเกียรติยศ ตัวอย่างเช่น ในสถานการณ์ที่เด็กยอมรับว่าทําของเล่นของเพื่อนแตกโดยไม่ปิดบัง หรือโยนความผิดให้ผู้อื่น

เทคนิคในการเลี้ยงลูกให้มี Leadership

เทคนิคในการเลี้ยงลูกให้มี Leadership

การเลี้ยงดูส่งเสริมด้านความคิด และพฤติกรรมจากพ่อแม่ ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างความเป็นผู้นำให้กับเด็กเช่นกัน โดยเทคนิคการเลี้ยงดูที่สามารถเสริมสร้าง Leadership Skills มีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

ส่งเสริมให้ได้รู้จักตัวเอง

พ่อแม่สามารถทําได้โดยการสนับสนุนให้ลูกทํากิจกรรมตามความสนใจ เช่น ถ้าลูกชอบวาดรูป  พ่อแม่อาจส่งเสริมด้วยการซื้อสีเทียนให้ลูกวาด หรือถ้าชอบร้องเพลง ก็ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมร้องเพลง ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้ค้นพบจุดแข็ง และความถนัดของตนเอง การทําให้เด็กรู้จักตัวเองจะช่วยพัฒนาความมั่นใจและกล้าแสดงออก ซึ่งเป็นคุณสมบัติสําคัญของ Leadership

สอนให้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

พ่อแม่ควรให้โอกาสลูกได้ตัดสินใจเลือกด้วยตนเองบ่อยๆ เช่น ให้เลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ หรือให้เลือกทํากิจกรรมที่สนใจ จะช่วยฝึกให้เด็กกล้าตัดสินใจโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น ซึ่งความสามารถในการตัดสินใจเป็นลักษณะสําคัญของ Leadership  การสอนตั้งแต่อายุยังน้อย จะเป็นการสร้างทักษะนี้ได้ดี

ฝึกการฟัง และการจดจำเรื่องราว

ฝึกการฟัง และการจดจำเรื่องราว

พ่อแม่ควรสนทนากับลูกโดยให้ลูกมีส่วนร่วม เช่น ถามความคิดเห็นลูก หรือให้ลูกเล่าเรื่องราวต่างๆ จะช่วยฝึกทักษะการจดจําได้ดีเป็นส่วนนึงของพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กนั่นเอง

คุยกับลูกให้เหมือนผู้ใหญ่

คุณสมบัติของความเป็นผู้นำมีมากมายหลายอย่าง ซึ่งความสำคัญอย่างหนึ่งในการเสริมสร้าง  Leadership Skill คือ การที่พ่อและแม่ฝึกให้ลูกรู้จักการสื่อสารอย่างสุภาพ และมีสัมมาคารวะ เหมือนการพูดคุยระหว่างผู้ใหญ่ด้วยกัน

สอนให้รู้จักการเป็นผู้ให้

การสอนให้ลูกรู้จักการเป็นผู้ให้ เช่น ฝึกแบ่งของเล่นให้น้อง หรือบริจาคของเล่นเก่าให้กับเพื่อนที่ขาดแคลน จะช่วยฝึกให้เด็กมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เป็นลักษณะของทักษะการเป็นผู้นําที่เข้มแข็ง

ฝึกให้คิดวิเคราะห์

การฝึกให้ลูกรู้จักคิดวิเคราะห์ โดยตั้งคําถามที่กระตุ้นให้เด็กคิด พ่อแม่สามารถทําได้โดยการตั้งคําถามให้ลูกคิด เช่น เมื่อลูกเล่าเรื่องราวหรือปัญหามา พ่อแม่สามารถถามว่า “ลูกคิดว่าควรจะทําอย่างไรดี” เพื่อให้ลูกฝึกวิเคราะห์สถานการณ์ และหาทางออกด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ

สอนเรื่องการควบคุมอารมณ์

สอนเรื่องการควบคุมอารมณ์

พ่อแม่สามารถอธิบายผลกระทบของอารมณ์โกรธ และวิธีการหยุดนิ่งสงบสติเมื่อโกรธ เช่น หายใจเข้า-ออกลึกๆ นับ 1-10 หรือเดินไปที่อื่นสักพัก ซึ่งจะช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์อย่างเหมาะสม

กระตุ้นให้มีส่วนร่วมกับกิจกรรม

การกระตุ้นให้ลูกมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะ Leadership สามารถทําได้โดยให้เด็กร่วมกิจกรรมกลุ่มต่างๆ ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน เช่น จัดกิจกรรมร่วมกันในวันหยุด

ปลูกฝังให้มีความอดทน

ปลูกฝังให้ลูกมีความอดทน โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จําเป็นสําหรับผู้นํา พ่อแม่ควรปลูกฝังความอดทนให้ลูก โดยชมเชยเมื่อลูกไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และพยายามอย่างเต็มที่ จะช่วยให้ลูกเป็นผู้นําที่เข้มแข็งและอดทนได้

สรุป

Leadership หรือ ภาวะความเป็นผู้นํา คือความสามารถในการชี้นํา และจูงใจผู้อื่นให้ทํางานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยทักษะการเป็นผู้นําจะช่วยให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก ไม่เก็บกดความรู้สึก และกล้าตัดสินใจ 

สำหรับพ่อแม่ หรือผู้ปกครองที่กำลังสนใจในการเรียนรู้ และเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับเด็ก เราขอแนะนำ Speak Up  สถาบันสอนภาษาสำหรับเด็ก ที่มีหลักสูตรการสอนและการทำกิจกรรมร่วมกับการเล่นเกมต่างๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กเล็ก เด็กอนุบาล จนถึงเด็กประถม ที่อยู่ในช่วงอายุ 2 ขวบครึ่ง ถึง 12 ปี ซึ่งทางสถาบันสอนภาษา Speak Up  จะช่วยให้เด็กๆ ได้ใช้ทักษะการเป็นผู้นำ และเรียนรู้ร่วมกับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี