fbpx

Fine and Gross Motor Skills ทักษะสำคัญที่พัฒนากล้ามเนื้อของเด็ก

สารบัญ
Fine and Gross Motor Skills ทักษะสำคัญที่พัฒนากล้ามเนื้อของเด็ก

Fine and Gross Motor Skills ทักษะสำคัญที่พัฒนากล้ามเนื้อของเด็ก

ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสารได้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด สื่อออนไลน์จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเรียนรู้ ทำให้สังคมกลายเป็นสังคมก้มหน้า การสื่อสารต่อหน้าผ่านทางคำพูดแทบจะนับคำได้ ส่งผลให้พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กๆ เสื่อมลงจนทำให้ป่วยบ่อย บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Fine Motor Skills และ Gross Motor Skills ทักษะที่พัฒนากล้ามเนื้อของเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจ และให้ความสำคัญ เพื่อช่วยพัฒนากล้ามเนื้อให้ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว สมวัย

Fine Motor Skills & Gross Motor Skills คืออะไร

Fine Motor Skills & Gross Motor Skills คืออะไร

ทั้ง Fine Motor Skills และ Gross Motor Skills เป็นทักษะของกล้ามเนื้อเหมือนกันแต่มีความต่างกัน ดังนี้

Fine Motor Skills

Fine Motor Skills หรือทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก คือกล้ามเนื้อบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ ไปจนถึงนิ้วแต่ละนิ้ว ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการออกแรงในขณะนวด ปั้น กด จับดินสอ หรือระหว่างเล่นเครื่องดนตรี เช่น เปียโน กีตาร์ โดยกล้ามเนื้อส่วนนี้ จะช่วยให้เขียนหนังสือได้สวย เป็นระเบียบ และสามารถหยิบจับของ ช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นต้น

Gross Motor Skills

Gross Motor Skills หรือทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ คือบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว แขน ขา รวมไปถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะช่วยในการทรงตัว สร้างสมดุลให้กับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้ยังรวมถึงความกระฉับกระเฉงในการเปลี่ยนท่าทาง และทักษะในการเล่นกีฬาด้วย

กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อของเด็ก

สำหรับกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อของเด็กสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก หรือ Fine Motor Skills

เขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้านหลังการ์ด ให้ตรงกับรูป

พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก หรือ Fine Motor Skills ของลูกได้ด้วยกิจกรรม ดังนี้

สร้างสรรค์งานฝีมือ

เริ่มต้นด้วยกิจกรรมงานฝีมือ ที่ช่วยให้ลูกๆ สามารถสร้างศิลปะอันสร้างสรรค์ได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีส่วนช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กได้อย่างดี เพราะเน้นการเคลื่อนไหวของมือเป็นหลัก เช่น งานปั้น งานวาดภาพ ระบายสี การพิมพ์ภาพ งานกระดาษตัดแปะ หรืองานประดิษฐ์จากเศษวัสดุ เป็นต้น เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3-6 ขวบขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่พร้อมสำหรับการสำรวจ และสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ 

ฝึกการขยับมือ

สำหรับกิจกรรมอย่างการขยับมือ เหมาะสำหรับเด็กที่อยู่ช่วงวัย 1-3 ขวบ เพราะอยู่ช่วงที่กำลังมีพัฒนาการในการเรียนรู้ เช่น การลากเส้นจากซ้ายไปขวา จากบนมาล่าง การวาดเส้นโค้ง การลาดเส้นตามรอยประ เป็นต้น เพื่อที่จะได้ฝึกความมั่นคงของการขยับมือ นิ้วมือ และการประสานงานของร่างกายที่ดีระหว่างมือและตา 

เล่นของเล่นพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก

สำหรับกิจกรรมเล่นของเล่น ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดีเลย เหมาะสำหรับเด็กที่อยู่ในช่วง 3-6 ขวบขึ้นไปที่ชอบหยิบจับของเล่นตลอดเวลา โดยมีบางกิจกรรมที่ช่วยจำเป็นต้องฝึกความแข็งแรงและกระบวนการคิด เช่น การต่อบล็อก การคีบของ การเล่นหุ่นเชิดนิ้วมือ การชั่งสิ่งของด้วยตาชั่ง การจำแนกของเล่นตามสีและรูปร่าง เป็นต้น

ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

สุดท้ายนี้ เป็นกิจกรรมกลางแจ้ง ที่เหมาะกับเด็กในช่วงอายุ 3-6 ขวบขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่มีความใคร่รู้ อยากรู้อยากเห็น ช่างคิด ช่างถาม การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งจึงเรียกได้ว่า ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กช่วงวัยนี้ได้อย่างดีเลยทีเดียว เช่น การโยนรับลูกบอล การละเล่นพื้นบ้าน หรือกิจกรรมการเล่นดิน เล่นทราย เป็นต้น

กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ หรือ Gross Motor Skills

กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ หรือ Gross Motor Skills

พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถสอนทำกิจกรรมเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ หรือ Gross Motor Skills ของลูกได้ ดังนี้

ปั่นจักรยาน 3 ล้อ

เริ่มต้นกันด้วยกิจกรรมปั่นจักรยาน 3 ล้อ ซึ่งเหมาะมากกับเด็กในช่วงอายุ 3-6 ขวบขึ้นไป เพราะสามารถช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้หลายส่วน ตั้งแต่การฝึกการทรงตัว การขยับแขน และขา การระมัดระวังตัว พร้อมกับการฝึกทักษะการสำรวจสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว เป็นต้น ซึ่งภายหลังที่การทรงตัวของลูกพัฒนาดีขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะเอาล้อที่ 3 ออก เพื่อฝึกพัฒนาการของกล้ามเนื้อไปอีกขั้นนั่นเอง

เล่นกีฬา

สำหรับกิจกรรมการเล่นกีฬา มีส่วนช่วยให้บริเวณกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการทรงตัว การขยับตัวที่คล่องแคล่วขึ้น รวมถึงสุขภาพร่างกายดีขึ้นด้วย เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 3-6 ขวบขึ้นไป เพราะกีฬาบางประเภทต้องใช้กำลังเยอะ เช่น ฟุตบอล ว่ายน้ำ ปิงปอง วิ่งแข่ง เป็นต้น

การเดินและวิ่ง

สำหรับกิจกรรม อย่างการเดินและการวิ่งเหมาะกับเด็กตั้งแต่ 1-3 ขวบเลย เพราะสามารถทรงตัวได้แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพาลูกๆ ไปเดิน หรือวิ่งเล่นแถวสวนสาธารณะก็เป็นความคิดที่ดี เพื่อสร้างทักษะด้านอารมณ์และการเข้าสังคมด้วยนั่นเอง  

เล่นของเล่นพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่

สำหรับการเล่นของเล่นเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ เหมาะสำหรับเด็กอายุประมาณ 3-6 ขวบขึ้นไป โดยพ่อแม่ผู้ปกครองควรเลือกของเล่นให้เหมาะสมและปลอดภัยกับเด็กด้วย โดยเฉพาะเครื่องเล่นในสวนสาธารณะ ที่เครื่องเล่นบางชนิดก็อาจจะอันตรายไปสำหรับเด็กบางคน ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกได้ฝึกพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้อย่างสมวัย

ทำกิจกรรมยืดหยุ่น

สุุดท้ายคือการฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ด้วยกิจกรรมแบบยืดหยุ่นร่างกาย ตั้งแต่การงอแขนขา หันซ้ายขวา ชันคอ เป็นต้น โดยกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ จึงเหมาะกับเด็กที่มีอายุช่วง 1-3 ขวบ ที่จำเป็นต้องฝึกการยืดหยุ่นร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทรงตัวได้ดี และสมดุลมากขึ้นนั่นเอง

หากเด็กๆ ไม่ได้รับการพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่จะเป็นอย่างไร

หากเด็กๆ ไม่ได้รับการพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่จะเป็นอย่างไร

หากเด็กๆ ไม่ได้รับการพัฒนาทางด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก และมัดใหญ่ จะส่งผลให้พัฒนาการต่างๆ ช้าลงได้ เพราะร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ตามใจต้องการ อวัยวะต่างๆ ของร่างกายไม่สัมพันธ์กัน เคลื่อนไหวได้ช้า ไม่คล่องแคล่วมากพอที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมทักษะทางด้านกีฬา หรืออาจจะส่งผลให้เมื่อเขียนหนังสือแล้วเมื่อยมือง่าย ต้องหยุดพักบ่อย ทำให้กว่าจะทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยต้องใช้เวลานาน หรืออาจเขียนหนังสือได้ไม่คล่อง เขียนได้ช้า จนอาจส่งผลต่อผลการเรียน และพฤติกรรมทางด้านอารมณ์ในที่สุด ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคน ควรตระหนักให้ดีว่าการเสริมสร้าง Fine Motor Skills และ Gross Motor Skills นั้นสำคัญมากแค่ไหน อย่าลืมพาลูกๆ ไปพัฒนาทักษะเหล่านี้ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่สมวัย ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ จะได้อยู่ห่างจากหน้าจอบ้าง

สรุป

Fine Motor Skills คือกล้ามเนื้อมัดเล็ก บริเวณข้อมือ ฝ่ามือ ไปจนถึงนิ้ว ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ขณะออกแรงนวด ปั้น กด จับ เป็นต้น ส่วน Gross Motor Skills คือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ บริเวณลำตัว แขน ขา เป็นต้น มีส่วนช่วยในการทรงตัว สร้างสมดุล และทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น หากเด็กๆ ไม่ได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ จะส่งผลให้พัฒนาการทางด้านร่างกายช้าลง เพราะร่างกายเคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กัน และเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่วมากพอที่จะทำกิจกรรมด้านกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือนั่นเอง


อย่างไรก็ตาม ควรพัฒนากล้ามเนื้อมัดต่างๆ ไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาต่างประเทศ อย่างภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ที่ Speak up ได้มีการสอดเเทรกกิจกรรม ที่ช่วยฝึกทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กอยู่ในการสอนภาษาด้วย พร้อมทั้งมีการสอนภาษาแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori Method) โดยคำนึงถึงความต้องการของเด็กเป็นสำคัญที่สุด จึงมีการสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็ก ให้เสรีภาพกับเด็ก ให้คำปรึกษา และกระตุ้นให้เด็กคิด พร้อมกับแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เรียนรู้โดยการปฏิบัติจริงผ่านสิ่งแวดล้อม เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กโดยเฉพาะ