Table of Contents

Spelling Bee สำหรับเด็กประถม สอนอย่างไร ให้พูดภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น

Spelling Bee สำหรับเด็กประถม สอนอย่างไร ให้พูดภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น

Table of Contents

  • Spelling Bee เป็นการฝึกสร้างคำศัพท์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้โดยไม่ต้องท่องจำ ทำให้เด็กเข้าใจโครงสร้างคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากขึ้นผ่านกิจกรรมสร้างคำศัพท์
  • การสอนสามารถทำได้ด้วยการเตรียมอุปกรณ์การเล่นอย่างกระดาษรูปตัวอักษร กล่องใส่ข้อความและกระดาษความหมาย โดยมีขั้นตอนเริ่มจากแบ่งกลุ่ม อ่านความหมายของคำแล้วหยิบตัวอักษรมาจัดเรียงเป็นคำศัพท์ แล้วจดคำศัพท์และความหมายให้ตรงกัน
  • การเล่น Spelling Bee มีประโยชน์ดังนี้ ช่วยฝึกการเรียนรู้แบบกระบวนการ เสริมพื้นฐานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้เข้าใจมากขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในตัวเด็กได้ดียิ่งขึ้น

เคยสงสัยกันไหมว่า Spelling Bee คืออะไร? และทำไมถึงเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆ ที่กำลังอยากเรียนภาษาอังกฤษ โดย Spelling Bee เป็นการแข่งขันสะกดคำที่ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เสริมสร้างความมั่นใจ และกระคุ้นการเรียนรูัให้กับเด็กๆ มาดูกันว่ากิจกรรมนี้คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และพ่อแม่สามารถช่วยสนับสนุนลูกอย่างไรบ้าง ไปดูกัน! 

Spelling Bee คืออะไร

Spelling Bee คืออะไร

Spelling Bee คือ การแข่งขันการสะกดคำภาษาอังกฤษที่เราได้รับให้ถูกต้อง โดยมีระดับความยากที่แตกต่างกันออกไป กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมในนักเรียนวัยประถม เพราะกิจกรรม Spelling Bee ช่วยฝึกทักษะการสะกดให้เด็กได้ดีขึ้น ในการแข่งขัน เด็กๆ จะได้รับคำศัพท์และต้องสะกดออกเสียงให้ถูกต้องต่อหน้ากรรมการหรือตัวแทน ซึ่งมักเป็นครู โดยสามารถแข่งแบบเดี่ยวหรือแบบทีมก็ได้ หากผู้เล่นสะกดผิดจะต้องออกจากการแข่งขัน และเกมดำเนินไปจนกว่าจะเหลือผู้ชนะที่สามารถสะกดคำได้ถูกต้องทั้งหมด

ที่มาของคำว่า Spelling Bee มาจากภาษาอังกฤษยุคกลาง คำว่า “bene” หมายถึง ความช่วยเหลือที่ให้กันโดยสมัครใจ ต่อมาในศตวรรษที่ 18 คำว่า “Bee” ถูกใช้เพื่ออธิบายถึงการรวมกลุ่มของผู้คนเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง ตัวอย่างเช่น “Spinning Bee” หมายถึง การรวมตัวกันปั่นด้าย “Quilting Bee” หมายถึง การรวมตัวกันเย็บผ้า ดังนั้นคำว่า “Spelling Bee” จึงหมายถึงการรวมตัวเพื่อแข่งสะกดคำ

4 ข้อควรรู้ก่อนสอน Spelling Bee

4 ข้อควรรู้ก่อนสอน Spelling Bee

เมื่อเราตัดสินในเริ่มต้นฝึก Spelling Bee เพื่อฝึกทักษะให้กับเด็กๆ เข้าใจและมีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีนั้น ควรคำนึงถึงสิ่งสำคัญหลายประการ ดังนี้

1. ทุกพยางค์มีอย่างน้อย 1 Vowel Sound

การฝึกฟังและสังเกตเสียงสระจะช่วยพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษและฝึก Spelling Bee ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเสียงสระเป็นหัวใจสำคัญของการออกเสียงคำในภาษาอังกฤษ โดยหลักการพื้นฐาน คือทุกพยางค์จะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งเสียงสระ การฟังและแยกแยะเสียงสระจึงเป็นทักษะสำคัญสำหรับเด็กๆ โดยฝึกฝนการฟังเสียงจากเจ้าของภาษา เปรียบเทียบเสียงสระระหว่างคำต่างๆ และฝึกออกเสียงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การออกเสียงมีความถูกต้องและชัดเจน

  • ตัวอย่างการฝึก ต้องฟังและแยกเสียงออกมาให้ได้ เช่น
    • Cat มีเสียงสระว่า /a/ (แอะ) 
    • Jet มีเสียงสระว่า /e/ (เอะ)

2. ต้องรู้ว่าเป็น Short Vowel หรือ Long Vowel

ในการฝึก Spelling Bee การแยกแยะระหว่างสระเสียงสั้น (Short Vowel Sound) กับสระเสียงยาว (Long Vowel Sound) เป็นทักษะสำคัญในการเรียนรู้ออกเสียงภาษาอังกฤษ โดยสระเสียงสั้นมักมีรูปแบบการสะกดแบบพยัญชนะ-สระ-พยัญชนะ ส่วนสระเสียงยาวสามารถสะกดได้หลายแบบ ตัวอย่างเช่น เสียง “เอ” อาจสะกดได้หลายแบบ เช่น a, ai หรือ ay ดังนั้นต้องฝึกการสะกดคำหลายๆ แบบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราสะกดคำและออกเสียงได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น

  • ตัวอย่างคำศัพท์สระเสียงสั้นและสระเสียงยาว 
    • Dog มีสระ /o/ ออกเสียงเอาะ ซึ่งเป็นสระเสียงสั้น
    • Goat มีสระ /oa/ ออกเสียงโอ ซึ่งเป็นสระเสียงยาว
 แยกพยัญชนะต้นกับตัวสะกดได้

3. แยกพยัญชนะต้นกับตัวสะกดได้

นอกจากเสียงสระที่ต้องฝึกแยกให้ได้แล้ว การแยกพยัญชนะและตัวสะกดเป็นส่วนสำคัญในการเล่น Spelling Bee เนื่องจากเสียงพยัญชนะแต่ละตัวมีความสำคัญต่อการออกเสียงและความหมายของคำ และเสียงในบางคำอาจมีความคล้ายคลึงกันหรือแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้เข้าใจคำศัพท์ผิดได้

  • ตัวอย่าง เช่น
    • Dog มีเสียงพยัญชนะต้น /d/ และมีตัวสะกด /g/
    • Cat มีเสียงพยัญชนะต้น /k/ และมีตัวสะกด /t/
  • ตัวอย่างพยัญชนะที่มีเสียงคล้ายกัน เช่น
    • /p/ กับ /b/
    • /t/ กับ /d/
    • /k/ กับ /g/

4. ใช้คำศัพท์ที่เป็นทางการ

นำทุกเสียงที่ได้ยินมาประสมคำเป็นทักษะที่จำเป็นในการฝึก Spelling Bee เพื่อให้สามารถแยกแยะและรวมเสียงต่างๆ ที่ได้ยินให้กลายเป็นคำที่ถูกต้อง โดยฝึกฝนจากการฟังเสียงทั้งหมดและแยกแยะระหว่างเสียงพยัญชนะ เสียงสระ และเสียงพยัญชนะท้ายคำ เรียงลำดับตามเสียงที่ได้ยิน ประกอบเป็นคำศัพท์ 

นอกจากนี้ยังมีเทคนิคฝึกด้วยการฝึกออกเสียงควบคู่กับการสะกดคำ จดศัพท์ที่น่าสนใจ แต่ควรระวังคำที่มีเสียงคล้ายกัน หรือบางคำมีการสะกดที่ไม่ตรงกับเสียง ดังนั้นการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยในการเรียนรู้ศัพท์ได้ดีขึ้น

  • ตัวอย่าง เช่น
    • Train ประกอบด้วยเสียง /t/ + /r/ + /eɪ/ + /n/
    • Dog ประกอบด้วยเสียง /d/ + /ɒ/ + /g/
เทคนิคในการสอน Spelling Bee

เทคนิคในการสอน Spelling Bee

เทคนิคง่ายๆ ในการสอน Spelling Bee ให้กับเด็กๆ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ และเป็นการจับกลุ่มเด็กๆ ทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานและท้าทาย เริ่มต้นอย่างไรไปดูกัน

เตรียมอุปกรณ์ในการฝึก Spelling Bee

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการเล่น Spelling Bee มีดังนี้

  • กระดาษตัวอักษร ให้ตัดออกเป็นตัวอักษร เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน
  • กล่องหรือลังใส่ตัวอักษร สำหรับเก็บตัวอักษร
  • กระดาษความหมาย เพื่อประกอบการเรียนรู้

ขั้นตอนในการทำกิจกรรม Spelling Bee

เมื่อเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อย มีขั้นตอนในการฝึก Spelling Bee ดังนี้

  • แบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มละ 4-6 คน
  • แจกกล่องใส่ตัวอักษร ให้แต่ละกลุ่ม
  • แบ่งหน้าที่ว่าใครทำอะไรบ้าง
  • อ่านความหมายของคำศัพท์ที่ได้รับ และใช้ตัวอักษรจากกล่องเพื่อสะกดคำให้ถูกต้อง
  • นำคำศัพท์ที่จัดเรียงได้ มาเขียนลงในกระดาษ
  • เขียนความหมายของแต่ละคำ ลงในกระดาษ โดยเรียงตามลำดับคำศัพท์ที่จัดเรียงได้ 
เด็กๆ ได้ประโยชน์จากการฝึก Spelling Bee อย่างไร

เด็กๆ ได้ประโยชน์จากการฝึก Spelling Bee อย่างไร

การฝึก Spelling Bee นอกจากได้ความสนุก เรียนรู้ ฝึกทักษะภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีข้อดีอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

Spelling Bee ช่วยฝึกการเรียนรู้แบบกระบวนการ

Spelling Bee ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ศัพท์อย่างเป็นกระบวนการ เริ่มจากการสร้างคลังคำศัพท์ ทำให้เด็กได้เรียนรู้ความหมาย รากศัพท์ และที่มาของคำ ช่วยให้เกิดการเรียนรู้เข้าใจภาษาอังกฤษมากกว่าการสะกดคำเพียงอย่างเดียว ทำให้มีความสามารถในการอ่าน เขียน และพูดได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เด็กสามารถสื่อสารความคิดได้ดีขึ้นและสนุกกับการเรียนภาษามากขึ้น 

พื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ภาษา

การฝึกฝนการ Spelling ช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างของคำ เช่น รากศัพท์ คำเติมหน้า (Prefix) คำเติมท้าย (Suffix) ทำให้สามารถวิเคราะห์คำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยได้ดีขึ้น ทำให้เด็กได้พัฒนาทักษะสำคัญที่ช่วยพัฒนาความสามารถด้านการอ่าน การเขียนและรู้หนังสือมากขึ้น และยังทำให้เด็กเรียนรู้เมื่อเจอศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยได้ดียิ่งขึ้น เช่น คำว่า Chique นั้น Spelling อย่างไร รวมถึงเรียนรู้การเขียน ไวยากรณ์ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การผันกริยา Spell ในกริยา V3 ผันอย่างไร

เพิ่มความมั่นใจในตัวเด็ก

การเล่น Spelling Bee กับเพื่อนเป็นกลุ่มช่วยเสริมความกล้าแสดงออก แม้ผิดพลาดก็เรียนรู้และรับมือได้อย่างใจเย็น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความมั่นใจในตนเอง ผ่านประสบการณ์การออกไปแข่งขันและเผชิญหน้ากับความท้าทาย เมื่อสามารถสะกดคำได้ถูกต้อง เด็กก็จะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง และส่งผลดีต่อการเรียนรู้ด้านอื่นๆ ในอนาคต

สรุป

กิจกรรม Spelling Bee เป็นกิจกรรมฝึกการสร้างคำศัพท์สำหรับเด็ก โดยไม่ต้องท่องจำ แต่เป็นการฝึกผ่านกิจกรรมให้เข้าใจการสะกดคำ โครงสร้างของคำ ทำให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น โดยคำนึงถึงองค์ประกอบแต่ละส่วนเพื่อให้เด็กเข้าใจได้อย่างชัดเจน ควรใช้สื่อประกอบ พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้การทำกิจกรรมแบบกลุ่มและการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
หากกำลังมองหาสถาบันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆ แนะนำ Speak Up เป็นสถาบันที่มีการเรียนรู้แบบลงมือทำ ปฏิบัติจริง ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้แบบกลุ่ม เรียนรู้คู่ความสนุก โดยเปิดสอนตั้งแต่อายุ 2.5-12 ปี