Table of Contents

รวม 15 วิธีท่องศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ท่องได้ขึ้นใจ จำได้ไม่มีลืม

รวม 15 วิธีท่องศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ท่องได้ขึ้นใจ จำได้ไม่มีลืม

Table of Contents

Key Takeaway

  • คนเราลืมคำศัพท์ได้ง่ายเพราะสมองจะลดความสำคัญของข้อมูลที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้หรือทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ความทรงจำจางลงตามกาลเวลา
  • วิธีท่องศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพคือการฝึกครบทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน พร้อมใช้เทคนิคทบทวนเป็นช่วงๆ (Space Repetition) เพื่อกระตุ้นความจำระยะยาวและเชื่อมโยงคำศัพท์กับบริบทจริง
  • การเลือกอุปกรณ์จำศัพท์ควรพิจารณาจากความชอบและความสะดวก เช่น สมุดจดคำศัพท์สำหรับคนชอบเขียน หรือแฟลชการ์ดสำหรับคนชอบทดสอบตัวเอง เพื่อเพิ่มแรงจูงใจและความสม่ำเสมอในการฝึก
  • สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกน้อยด้วยการตั้งเป้าหมายและให้รางวัลพวกเขาเมื่อบรรลุเป้าหมาย รวมถึงเลือกวิธีเรียนรู้ที่สนุกๆ เช่น การใช้เกมหรือคลิปวิดีโอที่ลูกชอบ เพื่อให้การฝึกจำศัพท์ไม่น่าเบื่อและต่อเนื่องไปนานๆ

ในโลกที่เชื่อมโยงถึงกันได้ง่ายในปัจจุบัน การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เป็นเรื่องสนุกและเต็มไปด้วยการค้นพบ เหมือนได้ไปผจญภัยในโลกกว้าง การมีคลังคำศัพท์เยอะๆ คือขุมทรัพย์ที่จะช่วยให้ลูกๆ สื่อสารได้อย่างมั่นใจและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อีกมากมาย

แต่จะทำอย่างไรให้จำคำศัพท์ได้เยอะๆแบบไม่น่าเบื่อ? วิธีท่องคำศัพท์ให้จำได้ ไม่มีวันลืม คือการใช้เทคนิคการจำ สร้างสภาพแวดล้อมสนุกๆ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ พร้อมเรียนรู้จากบริบท หรือใช้เครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยในการจำคำศัพท์ บทความนี้จะพามาดูวิธีท่องศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ลูกๆ ของคุณบรรลุเป้าหมายทางภาษาได้สำเร็จ

นำคำศัพท์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

1. นำคำศัพท์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

การเรียนรู้ภาษาจะมีประสิทธิภาพเมื่อได้ลงมือนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน ลองสอนลูกๆ ให้เชื่อมโยงคำศัพท์ใหม่ๆ กับสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน เมื่อเห็นอะไรก็ให้นึกถึงคำศัพท์นั้น หรือพยายามใช้คำศัพท์นั้นในสถานการณ์จริง ยิ่งใช้ร่างกายจดจำและฝึกฝนมากเท่าไร ก็จะยิ่งจำศัพท์ได้แม่นยำขึ้นเท่านั้น

ข้อดีของการเรียนรู้แบบนี้คือ ลูกน้อยจะจำคำศัพท์ได้มากกว่าและแม่นยำกว่าการท่องจำเฉยๆ อีกทั้งยังเข้าใจบริบทการใช้งาน ทำให้สามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังเป็นประโยชน์สำหรับการเขียนบทความหรือเรียงความเป็นภาษานั้นๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

2. ฝึกทักษะฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ให้ครบ

การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ จะมีประสิทธิภาพเมื่อผสานทักษะวิธีท่องศัพท์อย่างการฟัง พูด อ่าน และเขียนเข้าด้วยกัน เริ่มจากการให้ลูกฟังการออกเสียงที่ถูกต้องจากพจนานุกรมแล้วลองออกเสียงตาม พร้อมกับเขียนคำศัพท์นั้นลงสมุดไปพร้อมๆ กัน การทำงานร่วมกันของสมองจะช่วยให้ลูกน้อยจดจำได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ การให้ลูกได้ฟังเพลงพร้อมเนื้อเพลงระหว่างเดินทางก็เป็นวิธีที่สนุกและได้ผลดี ช่วยให้คุ้นเคยกับภาษาและสำเนียงไปในตัว วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์เท่านั้น แต่ยังพัฒนาทักษะภาษาแบบองค์รวม ทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อและจำได้แม่นยำกว่าเดิม

จำคำศัพท์เป็นกลุ่ม

3. จำคำศัพท์เป็นกลุ่ม

How to ท่องคำศัพท์ ไม่มีวันลืมอีกเทคนิคคือการจำคำศัพท์เป็นกลุ่ม เป็นวิธีที่ช่วยให้เด็กๆ เพิ่มคลังคำศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว ลองจัดกลุ่มคำที่มีความหมายคล้ายกัน (Synonym) หรือคำที่มีความหมายตรงกันข้าม (Antonym) เช่น End, Finish และ Complete ที่ล้วนหมายถึง “จบ” หรือ “เสร็จสิ้น”

การเรียนรู้คำเหล่านี้ไปพร้อมกันจะช่วยให้เด็กๆ จดจำได้ง่ายขึ้นและในปริมาณที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาบริบทการใช้งานของแต่ละคำ เพราะแม้จะมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่บางคำอาจไม่สามารถใช้แทนกันได้เสมอไป การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้นำคำศัพท์ไปปรับใช้ได้อย่างหลากหลายและเหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ ถือเป็นวิธีจําคําศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ช่วยให้จำได้จริง

4. จำจากรากศัพท์

การเรียนรู้คำศัพท์ผ่านรากศัพท์เป็นวิธีท่องศัพท์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะช่วยให้ลูกๆ เข้าใจที่มาและความหมายดั้งเดิมของคำนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ในภาษาอังกฤษที่ได้รับอิทธิพลจากกรีกและละติน รากศัพท์อย่าง Mono ที่แปลว่า “หนึ่ง” สามารถเชื่อมโยงไปสู่คำว่า Monotone (เสียงโทนเดียว) ได้อย่างง่ายดาย ข้อดีของวิธีนี้คือ นอกจากจะช่วยให้จดจำคำศัพท์ได้แม่นยำขึ้นแล้ว ยังเสริมสร้างทักษะการเดาความหมาย และทำให้การเรียนรู้คำศัพท์ยาวๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย เทคนิคนี้จึงถือเป็นวิธีท่องศัพท์ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจไม่แพ้วิธีอื่นๆ เลย

จดคำศัพท์บ่อยๆ ลงโพสต์อิท

5. จดคำศัพท์บ่อยๆ ลงโพสต์อิท

การท่องศัพท์แบบเดิมๆ อาจจะน่าเบื่อไปสำหรับลูกๆ ที่อยู่ในวัยกำลังเล่นสนุก ลองเปลี่ยนมาใช้โพสต์อิทเป็นตัวช่วยสร้างภาพจำและเชื่อมโยงคำศัพท์ เป็นวิธีท่องศัพท์ให้จำได้ ไม่มีวันลืม เพียงเขียนคำศัพท์ลงบนโพสต์อิทแล้วนำไปแปะตามจุดที่เกี่ยวข้องกับความหมาย เช่น คำว่า “Money” (เงิน) ก็แปะไว้ที่กระปุกออมสิน การแปะไว้ในที่ที่เห็นง่ายๆ หรือผ่านตาบ่อยๆ อย่างประตูห้องนอนหรือกระจกห้องน้ำ จะช่วยให้สมองจดจำคำศัพท์ได้เองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องพยายามท่องจำ แถมยังเป็นการสร้างความทรงจำระยะยาวที่ลืมยากอีกด้วย

6. ใช้แฟลชการ์ด (Flashcards) ช่วยจำ

แฟลชการ์ด (Flashcards) เป็นเครื่องมือวิธีท่องศัพท์ที่น่าสนใจ ด้วยรูปแบบที่ด้านหนึ่งเป็นคำศัพท์และอีกด้านเป็นคำแปล คุณสามารถใช้แฟลชการ์ดเพื่อทดสอบความจำลูกๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้แยกแยะคำที่จำได้แล้วออกจากคำที่ยังจำไม่ได้อย่างชัดเจน ยิ่งพกพาสะดวกก็ยิ่งทำให้เด็กๆ สามารถทบทวนคำศัพท์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นแฟลชการ์ดสำเร็จรูปหรือทำเอง วิธีนี้ก็ช่วยให้โฟกัสกับคำที่ยังไม่แม่นยำ ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้อย่างดีเลย

เปลี่ยนวิธีจำอย่างเดียวมาเล่นเป็นเกม

7. เปลี่ยนวิธีจำอย่างเดียวมาเล่นเป็นเกม

เปลี่ยนการท่องจำเดิมๆ น่าเบื่อๆ ให้เป็นการเรียนรู้คำศัพท์ผ่านเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์ที่มีบทสนทนาภาษาต่างประเทศ หรือเกมคลาสสิกอย่างจับคู่คำศัพท์ Hangman และ Crossword ไปจนถึงแอปพลิเคชันสนุกๆ อย่าง Ruzzle เกมเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างความบันเทิง แต่ยังช่วยให้เด็กๆ ได้ซึมซับคำศัพท์ใหม่ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้การเรียนรู้ภาษาดูไม่น่าเบื่อ ผ่อนคลาย และมีแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะภาษาของลูกๆ ต่อไป

8. ใช้มายแมพ (Mind Map) เข้าช่วย

สร้างคลังคำศัพท์ด้วย Mind Map วิธีท่องศัพท์ที่เป็นเครื่องมือช่วยให้ลูกๆ เข้าใจและจดจำคำศัพท์ได้แบบไม่มีวันลืม ด้วยการเชื่อมโยงคำและความหมายเข้ากับบริบท พร้อมเพิ่มรูปภาพเพื่อสร้างภาพจำที่ชัดเจนกว่าการท่องจำแบบเดิมๆ มายแมพจะช่วยจัดระเบียบความคิดและแสดงภาพรวมของคำศัพท์ รวมถึงจัดลำดับความยากง่าย ทำให้การเรียนรู้และทบทวนเป็นระบบยิ่งขึ้น การจัดกลุ่มคำที่เกี่ยวข้องกันยังช่วยเสริมการจดจำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

อ่านออกเสียงและเขียนไปด้วย

9. อ่านออกเสียงและเขียนไปด้วย

กระตุ้นสมองด้วย “Production Effect” ท่องศัพท์ให้จำแม่น! การให้เด็กๆ อ่านออกเสียงพร้อมเขียนคำศัพท์ ไปพร้อมๆ กัน เป็นเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองพร้อมกันทั้งด้านการฟัง การพูด และการเคลื่อนไหวของมือ ทำให้เกิดการจดจำที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อเด็กได้ยินเสียงของตัวเองและเห็นตัวอักษรไปพร้อมๆ กัน สมองจะสร้างความเชื่อมโยงจนนำไปสู่การจดจำคำศัพท์ในระยะยาวและแม่นยำกว่าเดิม

10. เชื่อมคำศัพท์กับรูปภาพ

การเชื่อมโยงคำศัพท์กับรูปภาพเป็นวิธีท่องศัพท์ที่จะช่วยให้เด็กๆ เข้าใจและจดจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ให้ลูกดูภาพแล้วพูดหรือเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง สมองของเด็กจะจดจำภาพได้ดีกว่าตัวอักษร ทำให้พวกเขานึกถึงคำศัพท์และความหมายได้ทันที วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้จำได้แม่นๆ แต่ยังเสริมสร้างความกระตือรือร้นและกล้าแสดงออกในการเรียนรู้ภาษาอีกด้วย

จำศัพท์แบบนึกถึงบริบทใช้งานจริง

11. จำศัพท์แบบนึกถึงบริบทใช้งานจริง

ให้ลูกเรียนรู้คำศัพท์ด้วยการนึกถึงประโยคหรือสถานการณ์จริงที่ใช้คำนั้นๆ ลองสร้างประโยคตัวอย่างหรือเล่าเรื่องราวที่มีคำศัพท์นั้นอยู่ วิธีนี้จะช่วยให้เด็กๆ เข้าใจความหมายของคำศัพท์ได้อย่างลึกซึ้ง และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง การเรียนรู้ผ่านบริบทเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้จำศัพท์ได้นานขึ้น แต่ยังทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งแค่การท่องจำแบบเดิมๆ อีกต่อไป

12. เรียนรู้ผ่านคู่สนทนาภาษา

การให้เด็กๆ ฝึกพูดคุยกับเจ้าของภาษา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคุณครู คือวิธีท่องศัพท์ที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะภาษา พวกเขาจะได้ใช้คำศัพท์ในสถานการณ์จริง ฝึกฟังและโต้ตอบ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจและทำให้จดจำคำศัพท์ได้แม่นยำขึ้น การสนทนาจะทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างธรรมชาติและสนุกสนาน ช่วยให้ภาษาซึมซับไปกับชีวิตประจำวันของเด็กๆ ได้จริงๆ

ฝึกจากคลิปสั้นที่สนใจ

13. ฝึกจากคลิปสั้นที่สนใจ

มาเปลี่ยนการเรียนรู้ภาษาให้เป็นการ์ตูนสุดโปรด ชวนลูกๆ ดูคลิปสั้นๆ ที่พวกเขาสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน เพลง หรือคลิปความรู้ แล้วชวนกันมาจดจำคำศัพท์จากเนื้อหาในนั้น วิธีนี้จะช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้คำศัพท์จากสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ทำให้เกิดแรงจูงใจและจดจำได้ดีขึ้น เพราะได้เห็นการใช้คำศัพท์ในสถานการณ์จริง พร้อมกับการได้ยินการออกเสียงที่ถูกต้องไปด้วย

14. หมั่นท่องศัพท์สม่ำเสมอ

ไม่ว่าเทคนิคการท่องศัพท์จะดีแค่ไหน แต่ความสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญ หากขาดการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง คำศัพท์ที่เรียนรู้ไปก็มีโอกาสถูกลืมได้ง่าย การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ต้องใช้เวลาและความอดทน พยายามให้ลูกๆ ท่องศัพท์ทุกวัน แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ระหว่างอยู่ในรถ เพราะการเห็นคำศัพท์บ่อยๆ จะช่วยให้สมองจดจำได้ขึ้นใจ ไม่มีวันลืม การแบ่งช่วงเวลาทบทวนเป็นระยะ เช่น หลังเรียนทันที 24 ชั่วโมง 1 สัปดาห์ และ 1 เดือน จะช่วยเสริมสร้างความทรงจำระยะยาวและลดการสูญเสียข้อมูล ทำให้จำคำศัพท์ได้แม่นยำและยั่งยืนขึ้น

15. อย่าลืมบันทึกความคืบหน้า

ชวนลูกๆ มาจดบันทึกคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวันลงสมุดหรือแอปพลิเคชันกัน! เทคนิคการท่องศัพท์แบบนี้ไม่เพียงช่วยให้ทบทวนคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้เห็นพัฒนาการของลูกน้อยได้อย่างชัดเจน สร้างความภาคภูมิใจและเป็นกำลังใจสำคัญในการเรียนรู้ต่อไป การทบทวนบันทึกคำศัพท์บ่อยๆ จะช่วยให้จดจำคำศัพท์ได้อย่างแม่นยำและยาวนานขึ้นอีกด้วย

สรุป

การเรียนรู้ภาษาที่สองเป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้ และการฝึกให้ลูกๆ มีคลังคำศัพท์เยอะๆ ก็ถือเป็นหลักการเรียนรู้ภาษาที่สำคัญเป็นอันดับแรกๆ เลยก็ว่าได้ วิธีท่องศัพท์โดยการใช้ Mind Map ช่วยให้ลูกๆ เข้าใจและจดจำคำศัพท์ได้ดีขึ้นผ่านการเชื่อมโยงคำและความหมาย รวมถึงการจัดกลุ่มคำที่เกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้ การจดบันทึกคำศัพท์ใหม่ๆ จะช่วยให้ทบทวนได้ง่ายและเห็นความก้าวหน้าด้วย หรือจะฝึกให้นำคำศัพท์มาใช้ในชีวิตจริงก็ถือเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญที่สุดคือความขยันและความสม่ำเสมอในการท่องศัพท์ หมั่นให้ลูกฝึกฝนทุกวัน และทบทวนเป็นระยะ เพื่อให้สมองจดจำคำศัพท์ได้อย่างแม่นยำแบบไม่มีวันลืม

พาลูกน้อยมาฝึกเรียนภาษา พร้อมกับการฝึกพัฒนาการให้มีสมาธิ กล้าแสดงออก พร้อมเข้าสังคมได้ในอนาคตตกันที่ Speak Up สถาบันสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีน สำหรับเด็กเล็ก 1.5 – 12 ปี ที่ประยุกต์การสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori) โดยคุณครูมืออาชีพที่มีประสบการณ์และมีเทคนิคการสอนภาษาสำหรับเด็กเล็ก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีท่องศัพท์ (FAQ)

สุดท้ายนี้ มาพบกับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีท่องศัพท์ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมได้ดีขึ้น

อยากฝึกท่องศัพท์ 100 คำใน 1 ชั่วโมง ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

ก่อนฝึกท่องศัพท์ 100 คำใน 1 ชั่วโมง ควรเตรียมสมุดจดคำศัพท์ รายชื่อคำศัพท์ที่ต้องการท่อง เครื่องมือช่วยฟังเสียงหรือคลิปเสียงคำศัพท์ และจัดสภาพแวดล้อมให้ไม่มีสิ่งรบกวน พร้อมตั้งใจฝึกอ่าน ฟัง และออกเสียงคำศัพท์ซ้ำหลายรอบอย่างมีวินัย เพื่อให้จดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีแอปฝึกคำศัพท์สำหรับเด็กแบบไหนบ้าง?

มีแอปมากมาย เช่น Monkey Junior ที่เน้นการออกเสียงและภาพประกอบ LearnEnglish Kids จาก British Council ที่มีวิดีโอและเกม ChuChu TV Nursery Rhymes Pro ที่ใช้เพลงและการ์ตูน Pili Pop Learn English ที่เน้นกิจกรรมสนุก และ English For Kids From PMG ที่มีบทเรียนและเกมช่วยจำ แอปเหล่านี้ออกแบบให้เหมาะกับเด็กแต่ละวัยและช่วยให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อ

ควรให้ลูกท่องศัพท์เวลาไหนดี?

ควรให้ลูกท่องศัพท์ในช่วงเวลาที่สมองสดชื่น เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือหลังพักกลางวัน เพราะเป็นช่วงที่ความจำดีที่สุด และควรให้มีการทบทวนภายใน 24 ชั่วโมงหลังเรียนรู้ เพื่อช่วยให้จดจำคำศัพท์ได้แม่นยำและยาวนานมากขึ้น

Jiranan Suriwan

Jiranan Suriwan

Author