fbpx

เคล็ดลับการสอนภาษาอังกฤษด้วยเพลง ร้องสนุกไม่หยุดพัฒนาการลูก

เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ ลูกด้วยเพลง

เคล็ดลับการสอนภาษาอังกฤษด้วยเพลง ร้องสนุกไม่หยุดพัฒนาการลูก

การเรียนภาษาอังกฤษด้วยเพลง คือรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษผ่านเสียงเพลงที่ทำให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ และสนุกสนานได้ในเวลาเดียวกัน โดยการที่ให้เด็กๆ ได้เรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงนั้นจะทำให้เด็กๆ ไม่เบื่อหน่าย สนุกไปกับเรียนรู้ และจดจำคำศัพท์ต่างๆ มากขึ้น ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำเคล็ดลับการสอนภาษาอังกฤษลูกด้วยเพลง พร้อมแนะนำการวางแผนการสอน และเพลงที่เหมาะกับการใช้สอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆ

ข้อดีของการใช้เพลงในการสอนภาษาอังกฤษลูก

ทำไมเราต้องใช้เพลงในการสอนภาษาอังกฤษลูก

ผู้ปกครองหลายๆ คนอาจจะมีคำถาม หรือข้อสงสัยว่า ทำไมเราถึงต้องใช้เพลงในการสอนภาษาอังกฤษลูก? เพราะดูแล้วไม่น่าจะได้ผล หรืออาจจะได้ผลน้อยกว่าการเรียนแบบปกติ แต่รู้หรือไม่? ว่าการเรียนภาษาอังกฤษด้วยเพลงนั้นมีข้อดี และประโยชน์อย่างหลากหลาย โดยประโยชน์จากการสอนภาษาอังกฤษลูกโดยการใช้เพลง มีดังนี้

ไม่เบื่อง่าย

เพราะว่าเพลงนั้นมีจังหวะ และทำนองที่สนุกสนาน ทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ แต่กำลังสนุกสนาน และเพลิดเพลินไปกับเพลงมากกว่า

จดจำคำศัพท์ได้ง่าย

เพราะว่าการฟังเพลงนั้นมีจังหวะ และทำนองประกอบ ไม่เหมือนกับอ่านหนังสือที่เป็นแบบท่องจำ จึงทำให้ง่ายต่อการจดจำคำศัพท์มากขึ้น เพียงแค่นึกถึงทำนองเพลง ก็จะจำคำศัพท์ได้ทันที

เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา

เพราะว่าการฟังเพลงนั้นไม่จำกัดว่าจะต้องอยู่ภายในห้องเรียนเท่านั้น ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถฟังเพลงได้ ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงสามารถทำได้ตลอดเวลา

ฝึกทักษะการฟัง และการพูด

เพราะว่าการฟังเพลงนั้นก็เปรียบเสมือนการฟังชาวต่างชาติพูดคุยกัน จึงทำให้เด็กๆ คุ้นชินกับสำเนียงการพูดมากขึ้น และทำให้เด็กๆ สามารถฝึกทักษะการพูดได้ด้วย เพราะว่าเมื่อเด็กๆ จำทำนอง จังหวะ หรือเนื้อเพลงเพลงนั้นๆ ได้แล้ว เมื่อได้ฟังเพลงก็จะต้องร้องตามอัตโนมัติอย่างแน่นอน

เรียนรู้วัฒนธรรมผ่านเพลง

เพราะว่าเพลงภาษาอังกฤษแต่ละเพลงนั้นมักจะมีการผสมผสาน หรือเสนอวัฒนธรรมต่างๆ เข้ามาอยู่ในเพลงด้วย จึงทำให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านจากทางเพลงได้ง่ายมากขึ้น

เรียนรู้รูปประโยคและคำศัพท์ใหม่

เพราะว่าภายในเพลงนั้นจะมีการใช้รูประโยคที่เข้าใจได้ง่าย ทำให้เด็กๆ เข้าใจถึง Tense หรือรูปประโยคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และนอกจากนั้นยังได้รู้ศัพท์ใหม่ๆ ที่นิยมนำมาใช้ในเพลง แต่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

วางแผนการสอนภาษาอังกฤษลูกด้วยเพลงอย่างไรให้ได้ผลดี

วางแผนการสอนภาษาอังกฤษลูกด้วยความเข้าใจผู้เรียนกันก่อน

ก่อนที่จะเริ่มการสอนภาษาอังกฤษลูกด้วยเพลงนั้นควรจะวางแผนการสอนเสียก่อน เพื่อที่ผู้ปกครองจะได้รู้ว่าเพลงนี้เหมาะแก่การนำมาสอนลูกหรือไม่ หรือว่าลูกนั้นเหมาะกับเพลงแบบไหนมากกว่า? เพราะว่าเพลงบางเพลงนั้นอาจจะเหมาะกับเด็กอีกช่วงวัยหนึ่งเท่านั้น โดยวิธีการวางแผนการสอนภาษาอังกฤษลูกโดยใช้เพลงแบบง่ายๆ มีดังนี้

เลือกแนวเพลงที่ลูกชอบ

การเลือกแนวเพลงที่เด็กๆ ชอบนั้นจะสามารถดึงดูดใจ และช่วยให้เด็กๆ สนใจที่จะเรียนรู้มากขึ้น โดยผู้ปกครองอาจจะสังเกตจากเพลงที่เด็กๆ ชอบฟัง หรือรู้สนุกไปกับเพลงนั้นบ่อยๆ เช่น มีการโยกตัวไปมาตามจังหวะ หรือมีการฮัมเพลงตามไปด้วย เป็นต้น

เลือกเพลงที่ฟังง่าย

การเลือกเพลงที่ฟังง่ายจะช่วยให้เด็กๆ รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการฟัง จดจำ หรือพูดตาม ทำให้เด็กๆ มีกำลังใจ และสนใจเรียนมากขึ้น

หาอุปกรณ์เสริมในการสอน

ถ้าหากเพลงนั้นๆ มีเรื่องราว มีตัวละครประกอบ หรือมีคำศัพท์ที่ควรรู้ ก็อาจจะทำอุปกรณ์เสริม เช่น ตุ๊กตามือ หรือการ์ดคำศัพท์ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการเรียน

ผู้ปกครองต้องทำการบ้านมาก่อน

เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าเด็กๆ จะต้องมีคำถามกลับมาอย่างแน่นอน เช่น คำนี้แปลว่าอะไร หรือทำไมถึงใช้รูปประโยคแบบนี้ เป็นต้น

ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรทำความเข้าใจผู้เรียนก่อนว่าต้องการอะไร หรือชอบอะไร เพื่อที่จะได้วางแผนก่อนจะให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษด้วยเพลง และให้เด็กๆ มีความสนุกสนานกับสิ่งที่กำลังทำมากที่สุด

10 เทคนิคในการสอนภาษาอังกฤษลูกด้วยเพลง

10 เทคนิคในการสอนภาษาอังกฤษลูกด้วยเพลงให้ได้ผลดีมากขึ้น มีอะไรบ้าง?

ฟาสต์ฟู้ดเป็นเมนูอาหารจานด่วน ที่ปรุงเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ถือเป็นเมนูที่ถูกใจเด็กๆ หลายคน ด้วยรสชาติที่อร่อย ซึ่งคำศัพท์อังกฤษหมวดอาหารฟาสต์ฟู้ดจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1.เข้าใจถึงความสามารถ และข้อจำกัดของเด็กๆ

เพราะว่าเด็กๆ แต่ละคนนั้นอาจจะมีพัฒนาการ ความอดทน หรือข้อจำกัดต่างๆ ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น จึงต้องเข้าใจถึงความสามารถ และข้อจำกัดของเด็กๆ ด้วย เพราะถ้าหากฝืนมากเกินไป อาจทำให้เด็กๆ รู้สึกไม่ดี และไม่อยากเรียนได้

2.สอนให้เหมือนไม่ได้สอน

เพราะว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่จะไม่ชอบการเรียน และมักจะชอบการเล่นมากกว่า ดังนั้น จึงควรสอนเด็กๆ ด้วยการแฝงการสอนไปกับเล่น มากกว่าให้นั่งเรียนเฉยๆ เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน และเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ทำมากที่สุด

3.ทำกิจกรรมร่วมด้วย

ให้เด็กๆ ทำกิจกรรมสั้นร่วมกับการเรียนรู้ และไม่ควรทำกิจกรรมนานเกินไป เพราะว่าเด็กๆ อาจจะเกิดอาการเบื่อได้

4.ผู้ปกครองร่วมทำกิจกรรมกับเด็กๆ ด้วย

การที่ผู้ปกครองทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ นั้นจะทำให้เด็กๆ รู้สึกผ่อนคลาย ไม่กังวล และมั่นใจในการแสดงออกมากยิ่งขึ้น

5.ใช้ตุ๊กตามือประกอบเพลง

เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยให้เด็กๆ เข้าใจถึงเนื้อเพลงมากขึ้น และสนุกสนานไปกับการร้องเพลงมากขึ้น

6.สอนแค่คำศัพท์ที่จำเป็น

เพราะว่าเด็กๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งจำคำศัพท์ที่ไม่จำเป็น และจะได้ไม่ต้องพยายามในการจำมากเกินไป ที่อาจทำให้เด็กๆ รู้สึกกดดันมากเกินไปได้

7.ร้องเพลงให้มากเข้าไว้

การร้องเพลงเยอะๆ จะช่วยให้เด็กๆ สนุกสนาน ไม่เบื่อง่าย และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น

8.ใช้ภาพประกอบให้เยอะ

การใช้ภาพประกอบให้เยอะจะทำให้เด็กๆ จดจำภาพ พร้อมกับคำศัพท์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

9.เล่นเกมให้มากกว่าเรียน

การทำกิจกรรมบ่อยๆ อย่างการเล่นเกมนั้นจะช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการที่ดี และสามารถจดจำสิ่งที่ทำอยู่ได้มากกว่าการเรียน

10.ชื่นชมเด็กๆ ให้บ่อยเท่าที่ทำได้

 เพราะการชื่นชมเด็กๆ นั้นจะทำให้เด็กๆ มีกำลังใจในการเรียนรู้ และรู้สึกว่าตัวเองก็มีความสามารถที่จะทำได้เช่นกัน

9 เพลงใช้สอนภาษาอังกฤษลูกเพิ่มทักษะ Grammar and Vocabuary

ส่งท้ายด้วย 9 เพลงที่นำไปใช้สอนภาษาอังกฤษลูกเพิ่มทักษะ Grammar and Vocabuary

หลังจากรู้ถึงวิธีการวางแผนการสอน และเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษด้วยเพลงแล้ว ต่อไปเราไปดูเพลงที่สามารถนำไปใช้สอนภาษาอังกฤษลูก เพื่อเพิ่มทักษะแกรมม่า และคำศัพท์ โดยมีทั้งหมด 9 เพลง และแต่ละเพลงมี Teaching Point ดังนี้

  1. เพลง Do You Like Bananas? เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับ Yes/No Questions
  2. เพลง Friday I’m in Love เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับ Days of the Week Vocabulary
  3. เพลง My Favourite Things เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับคำศัพท์ทั่วไป
  4. เพลง Somebody That I Used to Know เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคที่เป็นอดีต
  5. เพลง Call Me Maybe เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคที่เป็นอดีต
  6. เพลง All My Loving  เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคที่เป็นอนาคต
  7. เพลง Counting Stars  เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับคำศัพท์ทั่วไป
  8. เพลง If I Were a Boy  เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับประโยคที่แสดงความต้องการ หรือขอร้อง
  9. เพลง Across the Universe เป็นเพลงที่มี Teaching Point เกี่ยวกับคำกริยา

อัพสกิลคำศัพท์และ Grammer ด้วย SpeakUp Language Course

สรุป

การเรียนภาษาอังกฤษด้วยเพลงนั้นถือว่าเป็นอีกวิธีการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกวัย สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย เพียงแค่เลือกเพลงให้เหมาะสมกับผู้เรียน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงสนุกสนาน สามารถจดจำคำศัพท์ได้ง่าย และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย