เกี่ยวกับคอร์สเรียน Phonics จากสถาบันการสอนภาษา Speak Up
หลักสูตร Phonics อัพสกิลการออกเสียงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก
คอร์สสอนโฟนิกส์ที่สนุกและถูกใจน้องๆ หนูๆ ที่รักการเรียนภาษาอังกฤษมากที่สุด ด้วยการสอนที่ไม่เหมือนใคร เน้นให้น้องๆ กล้าแสดงออก ไม่เน้นหนักที่ทฤษฎีจนสร้างความเครียดให้เด็กมากเกินไป ผู้สอนมีความเข้าใจผู้เรียน โดยรายละเอียดของคอร์สได้รับการดีไซน์จากผู้สอนที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เพื่อให้น้องๆ ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเข้ามาเรียนกับทาง Speakup ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ 100% เลยว่าพัฒนาการของลูกรักด้านการพูดภาษาอังกฤษจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดอย่างแน่นอน
การสอน Phonics คืออะไร?
โฟนิกส์ (Phonics) คือ เป็นวิธีการสอนการอ่านและการเขียนที่กำลังเป็นที่นิยม ในการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กในสมัยนี้ โดยเทคนิคการเชื่อมหน่วยเสียง (Phoneme) และ ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเสียง (Grapheme) ผสมเข้าด้วยกันเพื่อให้เป็นคำ โดยไม่เน้นไปที่การท่องจำมากเกินไป ทำให้เด็กสนุกกับการอ่านและเขียนได้อย่างมีอิสระ
โดย โฟนิกส์เป็นเรื่องของการอ่านออกเสียงตัวอักษรและเสียงของตัวอักษรนั้นๆ โดยจะเน้นไปที่เสียงของแต่ละตัวอักษร เพื่อเป็นพื้นฐานในการฝึกถอดรหัสผ่านการผสมเสียง เพื่ออ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น• Ll คือ “แอล” แต่มีเสียงคือ “อัล”
• Oo คือ “โอ” แต่มีเสียงคือ “เอาะ” • Vv คือ “วี” แต่มีเสียงคือ “เวอะ” • Ee คือ “อี” แต่มีเสียงคือ “เอะ”โดยการแปลงตัวอักษรให้เป็นเสียงผ่านการถอดรหัส(Decode) ก็คือการนำเสียงของแต่ละตัวอักษรมาผสมกันและออกเสียงมาเป็นคำๆนั้น เช่น /l/ /o/ /v/ /e/ = /อัล/+/เอาะ/+/เวอะ/+/เอะ/ อ่านว่า เลิฟ เป็นต้นSPEAKUP เราออกแบบคอร์สเรียน Phonics ให้สนุกและเข้าใจผู้เรียนมากที่สุด
ข้อดีของการเรียนโฟนิกส์(Phonic)
เด็กวัยไหนควรเริ่มเรียนโฟนิกส์ (Phonics)
พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถปูพื้นฐานภาษาอังกฤษและการเรียนโฟนิกส์ให้ลูกๆได้ตั้งแต่ 2 ขวบเป็นต้นไปแต่วัยที่เหมาะที่สุดสำหรับการเริ่มเรียนโฟนิกส์แบบจริงจังคือประมาณ 5 ขวบหรือตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ไปจนถึงประถมศึกษาชั้นที่ 3
โดยช่วงอนุบาล1 อาจจะเรียนรู้เรื่องเสียงต่างๆ ชื่อตัวอักษร รวมถึงทักษะการเขียนและการประสมเสียงง่ายๆ นั่นคือการรวมเสียงจากการพูดให้เป็นคำนั่นเอง ส่วนต่อมาในระดับอนุบาล 2 และ 3 หรืออาจจะรวมไปถึงระดับประถม จะเป็นการใช้ไวยากรณ์ในการสร้างคำที่ซับซ้อนมากขึ้น และเป็นคำที่ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงลงไปในเสียงใดเสียงหนึ่ง เป็นต้น
การเรียน Phonics ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ดีอย่างไร
การฝึกพัฒนาการให้กับลูกหรือเด็กนั้นควรเน้นไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสมองและประสาทสัมผัสของเด็กเป็นหลัก เพราะสมองมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกระบวนการทำงานของระบบประสาท การที่ฝึกให้ลูกใช้ประสาทสัมผัสทั้งการใช้ หู ตา จมูก ปาก รวมถึงการสัมผัสจับต้อง จะเป็นการกระตุ้นที่ดีในการทำงานของสมอง โดยประโยชน์ของการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 มีหลากหลายมาก แต่มีคร่าวๆดังนี้
- กระตุ้นความสนใจ
- ฝึกสมาธิ
การทำงานศิลปะ เป็นขั้นเป็นตอน
- ฝึกพัฒนาการ
Fine motor skill กล้ามเนื้อ มัดเล็ก / Gross motor skill กล้ามเนื้อ มัดใหญ่ เช่น การปั้นแป้งโด , การใช้กรรไกร, การกระโดดขาเดี่ยว
- ช่วยในการจดจำ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่กดดัน
- การเข้าสังคม การทำกิจกรรม เล่นเกม ร่วมกับเพื่อนๆ ที่ต้องรู้จัก รอคิว , เข้าเเถว และ แบ่งปัน
โดยคอร์สโฟนิกส์ของทาง Speakup จะพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของน้องๆ หนูๆ ดังนี้
ชวนลูกสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว พร้อมสอดแทรกคำศัพท์สำคัญ โดยเกมส์หรือเทคนิคการสอนโฟนิกส์ของทาง SPEAKUP ที่นำมาสอนน้องๆ คือ
- 1) ตัวอย่างเช่น การออกเสียง A ” แอ” = Ant คุณครูให้นักเรียนสังเกตสิ่งรอบตัวว่า มีสิ่งไหนที่มีเสียง “แอ” อีกบ้าง นักเรียนจะวิ่งไปชี้โฟสเตอร์ที่ มีรูปจระเข้ “แอ” Alligator เป็นต้น
- 2) การสังเกต จับคู่คำศัพท์โฟนิกส์ที่เหมือนกัน เช่น “A_t” จับคู่กับ “An_”
ส่วนนี้จะเน้นให้น้องๆฟังเสียงหรือเพลงต่างๆ เพื่อฝึกทักษะและความคุ้นเคยในการฟังภาษาอังกฤษ พร้อมสอดแทรกคำศัพท์สำคัญ โดยเกมส์หรือเทคนิคการสอนโฟนิกส์ของทาง SPEAKUP ที่นำมาสอนน้องๆ คือ
- 1) การร้องเพลงละเสียงของตัวอักษรโฟนิกส์ มีส่วนทำให้จดจำเสียงในรูปแบบทำนอง ซึ่งแน่นอนว่า มีความดึงดูดการจำจดได้ดี เช่น เพลง “แอ” Ants on my arm และ ในเเต่ละตัวอักษร จะมีท่าทางประกอบ เช่น การใช้มือปัดมดที่อยู่บนแขน พร้อมออกเสียง “แอ” Ants on my arm
- 2) เกมโทรศัพท์ (String telephone) ใช้หูฟังเสียง และ เลือกตัวอักษรที่ถูกต้อง เป็นการฝึกประสาทสัมผัสด้านการจับเสียง เช่น “แอ เนอะ เทอะ” = A-n-t ซึ่งการฝึกเสียงนี้ทำให้นักเรียนคิดภาพของตัวอักษรได้โดยไม่ต้องเขียนออกมา
ชวนน้องๆลองสัมผัสหรือประกอบคำจากสิ่งต่างๆ ๆ รอบตัว พร้อมสอดแทรกคำศัพท์สำคัญ โดยเกมส์หรือเทคนิคการสอนโฟนิกส์ของทาง SPEAKUP ที่นำมาสอนน้องๆ คือ
- 1) การปั้นแป้งโด หรือ เขียน เป็นตัวอักษร ตามที่เสียงที่คุณครูบอก แน่นอนว่า สมาธิของเด็กวัยนี้ ไม่สามารถอยู่กับ 1 สิ่งได้นาน ทางสถาบันจึงหากิจกรรมที่หลากหลาย แน่นการสัมผัส และ ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง ซึ่งนักเรียนไม่เพียงแต่ได้ฝึกสะกดคำ แต่ยังได้ฝึก ทักษะการเขียน , การปั้น, การบีบ เป็นต้น
- 2) การกระโดด ผสมคำโฟนิกส์ การเคลื่องไหวร่ายกายในห้องเรียน เป็นอีกวิธีกระตุ้นการตื่นตัว และ ความสนใจได้ดีเยี่ยม โดย นักเรียนฟังการออกเสียงจากคุณครู และ กระโดดบนตัวอักษรรูปเท้าให้ถูกต้อง
ส่งลูกมาเรียน Phonics ที่ Speakup ดียังไง
การสอน Phonics ของ SpeakUp ใช้หลักการสอน ตามรูปแบบ Jolly phonics จากประเทศอังกฤษ ควบคู่กับการทำกิจกรรมต่างๆ ที่สอดแทรกการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งไม่เพียงแต่ได้เรียนโฟนิกส์ แต่เป็นการฝึก พัฒนาการ, ความคิดสร้างสรรค์, ฝึกสมาธิ, ความกล้าแสดงออก, การเข้าสังคม ไปในตัว
หลายๆคนจะสงสัยว่าเรียนโฟนิกส์คู่กับการทำงานประดิษฐ์และงานศิลปะ ได้จริงหรอ? นักเรียนจะจดจำได้ไหม ?
การยกตัวอย่างง่ายๆ มี 2 รู้แบบการสอนโฟนิกส์วางคู่กัน
- กิจกรรมที่ 1 ที่มี สมุดที่มีคำโฟนิกส์ให้คัด และ ดินสอ
- กิจกรรมที่ 2 ที่มี กรรไกร สีน้ำ และ กระดาษโปสเตอร์ที่มีคำโฟนิกส์
ถ้าให้นักเรียนเลือกด้วยตัวเอง แน่นอนว่า ความหลากหลาย และ สีสัน จะดึงดูดให้เด็กๆเลือก กิจกรรมที่ 2 มากกว่า โดยที่ยังไม่ได้ลองเปิดดูภายในว่าสมุดงั้นมีอะไรที่น่าสนใจหรือป่าว
งั้นก็หมายความว่า สภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ จับต้องได้ และ มีสีสัน ดึงความสนใจเด็กได้โดยไม่ต้องมีการชักชูง และ บังคับ
จุดเด่นของ SpeakUp คือการเรียนที่ใช้หนังสือน้อยที่สุด แต่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า โดยการนำเทคนิคการสอนและอุปกรณ์แบบ Montessori มาใช้ในห้องเรียน พลิกโฉมการเรียนแบบเก่าๆที่เน้นการท่องจำ มาเป็นรูปแบบที่นักเรียนได้ลงมือทำด้วยตัวเอง
รายละเอียดคอร์ส Phonics ของทาง Speakup
ขั้นตอนการเรียนของ SpeakUp แบ่งเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้:
1. การแบ่งตามกลุ่มอายุ รุ่นเดียวกัน
- 2.5 – 3.5 ขวบ
- 3.6 – 5 ขวบ
- 6 – 7 ขวบ
- 8 – 9 ขวบ
- 10 – 12 ขวบ
2. การทดสอบ และ แบบตามระดับภาษา
หลังจากแบบกลุ่มอายุเเล้ว นักเรียนต้องเข้าทดลอง เทสระดับภาษา (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) เพื่อคุณครูจะได้ประเมิน และ จัดกลุ่มให้เหมาะสมกับเพื่อนรวมห้อง
จำนวนนักเรียน และ รอบเวลาเรียน:
1. จำนวนนักเรียนไม่เกิน 6 คนต่อห้อง
2. รอบเวลาเรียน:
วันเสาร์ 10:00-11:00 น.
- 11:15 – 12:15 น.
- 12:30-13:30 น.
- 13:00-14:00 น.
- 14:00-15:00 น.
วันอาทิตย์ 10:00-11:00 น.
- 11:15 – 12:15 น.
- 12:30-13:30 น.
- 13:00-14:00 น.
- 14:00-15:00 น.
*ทั้งนี้ต้องเช็ครอบเวลาที่ยังว่างอยู่กับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
- ระยะเวลาเรียน
- เริ่มต้น 20 ชม. ระยะ 5 เดือน
- 30 ชม. ระยะ 8 เดือน
- 40 ชม. ระยะ 11 เดือน
*สอบถามราคาคอร์สต่างกับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
ปรึกษาครูผู้สอน เกี่ยวกับ คอร์สเรียน ฟรี!!
SpeakUp จัดแบ่งการสอนออกมาทั้งหมด 5 ระดับชั้นที่เหมาะสมกับช่วงวัย
Level 1: Nursery (2.5 -3.5 ขวบ)
- Vocabs and Letters
- Participation
- Socialization
Level 2: Kindergarten (3.6 – 5 ขวบ)
- Beginning sound
- Phonics
- Sight words
- Vocabs
Level 3: Level A (6 – 7 ขวบ)
- Phonics
- Vocabs
- Basic grammar
- Story telling
Level 4: Level B (8 – 9 ขวบ)
- Vocabs
- Grammar
- Conversation
- Story telling
- Presentation
Level 5: Level C (10 – 12 ขวบ)
- Vocabs
- Advanced grammar
- Conversation
- Story telling
- Presentation
รีวิวจากผู้ปกครอง สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Speak Up Language Center
RECOMMENDATIONS AND REVIEWS
รีวิวและประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษและภาษาจีนของเด็ก ๆ ที่ Speak Up จากผู้ปกครอง
สถาบันสอนดีมากค่ะน้องเรียนตั้งแต่ ยังพูดไม่ได้ อายุ 1.5 ตอนนี้น้อง อายุ 3 ขวบแล้ว
ลูกสาวเรียนตั้งแต่ 2.5 ขวบ ปัจจุบัน 4.5 ขวบแล้ว สถาบันดี พื้นที่สะอาด ดูแลน้องๆ เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ดีมากครับ
ลูกเรียนอนุบาลแบบบูรณาการมา อ่อนภาษาอังกฤษ..เลยพาลูกมาเรียนที่นี่ ลูกมีพัฒนาการภาษาอังกฤษดีขึ้น ชอบเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น..ลูกอยากมาเรียนที่นี่ทุกวันเลยค่ะ
เรียนสนุกค่ะ ลูกสาวมีความสุข ไม่ได้เรียนอย่างเดียวแต่มีเพลง มีกิจกรรมสอดแทรก มีผลงานกลับบ้านด้วยค่ะ คุณครูใจดีเอาใจใส่เด็กๆ
สถาบันดีมากค่ะ ใส่ใจนักเรียนรวมทั้งผู้ปกครอง เด็กๆที่บ้านชอบมาก มีกิจกรรมให้เด็กทำ เปลี่ยนอิริยาบถ เด็กๆไม่เบื่อค่ะ
คุณครูใจดีเป็นกันเอง สอนสนุก ลูกสาวชอบมากๆค่ะ เรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆและเพลง ทำให้เด็กเข้าใจง่ายและไม่เบื่อ บรรยากาศในคลาสเรียนอบอุ่น
Tarnza Pothong
Rtee Phon
น้องจีน คับบบ
Lishuta Sh
Mari Mari
Boaky Fragipani
กิจกรรมและบรรยากาศในการเรียนภาษาที่ Speak Sp ทั้งในและนอกสถานที่
IN & OUT-OF-CLASS ACTIVITIES
นอกจากการเรียนภาษาในห้องเรียน ทางสถาบันยังจัดให้เด็ก ๆ ที่เรียนภาษากับทาง Speak Up ได้ทำกิจกรรมนอกสถานที่เพื่อเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้ ทักษะการสื่อสาร ทักษะในการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ
วิดีโอบรรยากาศในห้องเรียน
ALBUM รูปบรรยากาศในห้องเรียน
ติดต่อสถาบันสอนภาษา