Key Takeaway
- การสอนภาษาอังกฤษผ่านเกมช่วยให้เด็กเรียนรู้อย่างสนุก มีส่วนร่วมเต็มที่ ไม่รู้สึกว่ากำลังเรียน จึงจดจำได้ดี พัฒนาทักษะรอบด้าน เหมาะกับทุกวัย ใช้ได้ทั้งที่บ้านและในห้องเรียน ช่วยสร้างแรงจูงใจให้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เครียด
- เกมสอนภาษาอังกฤษมี 4 ประเภทหลักๆ ที่ช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็ก เช่น เกมคำศัพท์ (Vocabulary Games) เกมฝึกพูดและฟัง (Speaking & Listening Games) เกมอ่านออกเสียงและการอ่าน (Reading Games) เกมเขียนภาษาอังกฤษ (Writing Games)
- เกมการสอนภาษาอังกฤษมีหลากหลายรูปแบบที่ช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กอย่างครบถ้วน เช่น ถูกหรือผิด (True or False) เกมจับผิดภาพ (What is Wrong with This Picture?) เกมแข่งกันร้องเพลง (Sing It Out Loud!) เป็นต้น
- การใช้เกมสอนภาษาอังกฤษให้ได้ผลที่ดี ควรเลือกเกมให้เหมาะกับวัย กำหนดเป้าหมายชัดเจน สร้างบรรยากาศให้สนุก ปรับระดับความยากง่าย สลับเกมบ้างเพื่อกระตุ้นความสนใจ ให้เด็กมีส่วนร่วมออกแบบเกม และสรุปบทเรียนเพื่อเสริมความเข้าใจ
การเรียนรู้ผ่านการเล่นคือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก โดยเฉพาะช่วงวัยที่สามารถเปิดรับสิ่งใหม่ได้ง่าย วันนี้เรารวมมาให้แล้วกับ 20 เกมสอนภาษาอังกฤษ เกมฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ที่ทั้งสนุก เสริมทักษะครบ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เหมาะสำหรับใช้ได้จริงทั้งที่บ้านและในห้องเรียน พ่อแม่และคุณครูนำไปปรับใช้ได้ทันที ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะ เด็กเรียนรู้ได้แบบไม่เครียด พัฒนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สอนภาษาอังกฤษผ่านเกมดีอย่างไร?
การสอนภาษาอังกฤษผ่านเกม เป็นวิธีที่ทั้งสนุกและได้ผล เพราะช่วยให้เด็กมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ เด็กๆ จะเรียนรู้โดยไม่รู้สึกว่ากำลัง “เรียน” ทำให้จดจำคำศัพท์และโครงสร้างภาษาได้ดีกว่าการท่องจำแบบเดิมๆ นี่คือข้อดีที่แตกต่างอย่างชัดเจน ไปดูกันว่าเกมประกอบการสอนภาษาอังกฤษดีอย่างไร
- เรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Active Learning) เด็กจะไม่ใช่แค่ผู้ฟัง แต่ได้ลงมือทำ สื่อสาร และตอบสนองในทันที ทำให้สมองเชื่อมโยงข้อมูลได้ดีขึ้น
- ฝึกหลายทักษะในเวลาเดียวกัน ขณะเล่นเกม เด็กจะได้ใช้ทั้งการฟังคำสั่ง พูดโต้ตอบ อ่านคำศัพท์ และเขียนคำตอบในสถานการณ์จริง
- เหมาะกับเด็กทุกระดับวัย เกมสามารถปรับรูปแบบให้เหมาะกับแต่ละวัย ตั้งแต่เด็กเล็กที่เพิ่งเริ่ม ไปจนถึงเด็กโตที่ต้องการฝึกภาษาในระดับสูงขึ้น
- สนุกและจดจำได้ง่าย ความสนุกจะช่วยให้เด็กจดจำเนื้อหาได้ดีกว่าการนั่งท่องจำแบบเดิม เพราะสมองเชื่อมโยงคำศัพท์กับประสบการณ์ที่น่าจดจำ
- เสริมพัฒนาการทั้ง 4 ทักษะ เกมที่ดีจะออกแบบให้เด็กได้ฝึกใช้ภาษารอบด้าน ส่งเสริมทักษะการสื่อสารอย่างสมดุล
- สร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียนรู้ เมื่อเด็กสนุกกับการเรียน เด็กจะอยากกลับมาเรียนอีกเรื่อยๆ และไม่รู้สึกเครียดกับภาษาอังกฤษ
- ฝึกความคิด การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม หลายเกมต้องใช้การวางแผน คิดแก้โจทย์ หรือเล่นร่วมกับเพื่อน ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะชีวิตควบคู่กับภาษา
- ใช้ได้ทั้งที่บ้านและในห้องเรียน ผู้ปกครองสามารถใช้เกมเป็นเครื่องมือฝึกภาษาที่บ้านได้ง่าย เช่น เกมจับคู่คำศัพท์ หรือบิงโกภาษาอังกฤษ รวมถึงครูก็ใช้ในชั้นเรียนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ไม่น่าเบื่อ

เกมสอนภาษาอังกฤษมีกี่ประเภท
เกมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมีหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับช่วงวัยและเป้าหมายการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นเกมที่เน้นทักษะเฉพาะ หรือเกมสื่อการสอนภาษาอังกฤษที่ช่วยฝึกสื่อสารแบบครบวงจร แต่ละประเภทมีจุดเด่นต่างกัน ช่วยให้การเรียนไม่น่าเบื่อ เด็กสนุกและอยากเรียนต่อเนื่อง
เกมคำศัพท์ (Vocabulary Games)
เกมคำศัพท์เป็นเกมที่เน้นให้เด็กเรียนรู้และจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษผ่านการเล่นที่สนุกสนาน เช่น การจับคู่ภาพกับคำศัพท์ เกมบิงโกคำศัพท์ เกมทายคำ หรือเกมแฟลชการ์ด ซึ่งช่วยให้เด็กได้เห็นคำศัพท์ซ้ำๆ ในบริบทที่หลากหลาย ทำให้จดจำคำได้แม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องท่องจำแบบน่าเบื่อ
นอกจากนี้ยังช่วยขยายคลังคำศัพท์ของเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถปรับระดับความยากง่ายตามวัยได้อีกด้วย ตัวอย่างเกม เช่น Flashcard Matching, Vocabulary Bingo, Guess the Word หรือ Word Puzzle ที่เล่นได้ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม เพิ่มความสนุกและเสริมการเรียนรู้ไปพร้อมกัน
เกมฝึกพูดและฟัง (Speaking & Listening Games)
เกมฝึกพูดและฟังเป็นกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เด็กใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารจริง โดยเน้นการฟังคำสั่งหรือประโยค และโต้ตอบด้วยคำพูด ซึ่งช่วยพัฒนาการออกเสียง ความเข้าใจในการฟัง และเสริมความมั่นใจในการพูด
ตัวอย่างเกม เช่น Simon Says ที่เด็กต้องฟังและทำตามคำสั่ง Telephone Game ที่เน้นการฟังและส่งต่อข้อความ หรือ Role Play ที่ให้เด็กสวมบทบาทในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ไปซื้อของหรือถามทาง ประโยชน์ของเกมเหล่านี้คือช่วยให้เด็กกล้าใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ ฝึกโต้ตอบในบริบทจริง และพัฒนาทักษะการฟังควบคู่กับการพูด
เกมอ่านออกเสียงและการอ่าน (Reading Games)
เกมอ่านออกเสียงและการอ่านเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กฝึกอ่านภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจและเข้าใจความหมายของสิ่งที่อ่าน โดยเกมเหล่านี้มักออกแบบให้สนุก เช่น การอ่านประโยคแล้วเลือกภาพให้ตรงกับเนื้อหา เกมอ่านคำแล้วกระโดดไปที่คำที่ตรงกัน หรือเกมต่อประโยค เพื่อฝึกเรียงลำดับคำและเข้าใจโครงสร้างประโยค
ประโยชน์ของเกมประกอบการสอนภาษาอังกฤษนี้คือช่วยพัฒนา Phonics, Sight Word Recognition และความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ทำให้เด็กอ่านได้คล่องขึ้น เข้าใจภาษาอย่างลึกซึ้ง และกล้าพูดตามเสียงที่อ่านได้อย่างถูกต้อง
เกมเขียนภาษาอังกฤษ (Writing Games)
เกมเขียนภาษาอังกฤษเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กฝึกใช้ภาษาอังกฤษในการเขียนอย่างสร้างสรรค์และสนุกสนาน โดยมักออกแบบให้เด็กได้ฝึกสะกดคำ ประกอบประโยค หรือแต่งเรื่องสั้นผ่านการเล่น เช่น Scrambled Sentences ที่ให้เป็นประโยคถูกต้อง Spelling Bee แข่งขันสะกดคำ หรือ Story Dice ทอยลูกเต๋าภาพแล้วแต่งเรื่องตามภาพที่ออกมา
ประโยชน์ของเกมประเภทนี้คือช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างภาษา พัฒนาทักษะการสะกดคำและเรียบเรียงความคิด พร้อมเสริมจินตนาการและความมั่นใจในการเขียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น

รวม 20 เกมสอนภาษาอังกฤษเด็ก สนุกได้ทุกวันแบบไม่เบื่อ
สอนภาษาอังกฤษให้เด็กไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไป! หากใช้ “เกม” เป็นตัวช่วย เด็กๆ จะได้เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ สนุก และอยากเรียนรู้ต่อเนื่องทุกวัน วันนี้เรารวม 20 เกมสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่เล่นง่าย ได้ผลจริง ใช้ได้ทั้งที่บ้านและในห้องเรียน มาให้ลองเลือกใช้กันดูเลย!

1. เกมถูกหรือผิด (True or False)
เกม “True or False” เป็นเกมแนวคำถาม-คำตอบ ที่เน้นฝึกทักษะการฟัง ความเข้าใจ และการคิดวิเคราะห์ เด็กจะต้องตัดสินใจว่าเนื้อหาที่ได้ยินหรืออ่านข้อความนั้น “จริง” หรือ “ไม่จริง” เหมาะสำหรับใช้ทบทวนความรู้หรือสอดแทรกคำศัพท์ใหม่ๆ อย่างสนุกสนาน
- จำนวนผู้เล่น 1 คนขึ้นไป (เล่นเดี่ยวหรือกลุ่มก็ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การ์ดคำ ประโยค (True/False) กระดานไวท์บอร์ด หรือเพียงแค่เสียงพูด
- วิธีเล่น ครูหรือผู้ปกครองอ่านประโยคภาษาอังกฤษ เช่น “Cats can fly.” เด็กจะต้องตอบว่า “True” หรือ “False” โดยพูดออกเสียง หรือยกป้ายคำตอบ
- ทักษะที่ได้รับ พัฒนาความรู้และความเข้าใจในเรื่องที่เล่น ฝึกการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ฝึกความจำและการฟังอย่างตั้งใจ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม (หากเล่นแบบทีม) และการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์

2. เกมฉันคืออะไร (What Am I)
เกม “ฉันคืออะไร (What Am I)” ที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการใช้คำศัพท์ในบริบทจริง โดยเด็กจะได้ฝึกทักษะการฟัง การพูด และการใช้ภาษาในการอธิบายหรือบรรยายสิ่งของ สัตว์ หรือบุคคล เกมสอนภาษาอังกฤษนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกและเหมาะสำหรับเล่นเป็นกลุ่ม ทำให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการสื่อสารจริง
- จำนวนผู้เล่น 3 คนขึ้นไป (เล่นเป็นกลุ่มเล็กหรือใหญ่ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การ์ดคำศัพท์หรือกระดาษที่เขียนคำศัพท์ต่างๆ เช่น ชื่อสัตว์ สิ่งของ หรืออาชีพ
- วิธีเล่น ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับบัตรคำโดยไม่ให้เห็นคำบนบัตร แล้วติดไว้ที่หน้าผากของตัวเอง โดยที่คนอื่นเห็นคำที่ติดอยู่ จะต้องตั้งคำถามเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเก็บข้อมูลและทายคำที่ติดอยู่บนหน้าผากตัวเอง เช่น “Am I an animal?” หรือ “Can I fly?” โดยผู้เล่นอื่นจะตอบ “Yes” หรือ “No” จนกว่าจะทายถูก
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกพูดและถามคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ฝึกฟังและวิเคราะห์คำตอบ เพิ่มพูนคำศัพท์ และส่งเสริมการคิดอย่างมีเหตุผล นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารและความมั่นใจในการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง
3. เกมทอยลูกเต๋าเริ่มบทสนทนา (Conversation Starter Dice)
เกม “ทอยลูกเต๋าเริ่มบทสนทนา (Conversation Starter Dice)” เป็นเกมสอนภาษาอังกฤษที่ช่วยกระตุ้นการพูดและการคิดอย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นให้เด็กฝึกการตั้งคำถามและตอบสนองในสถานการณ์สนทนาต่างๆ เกมนี้เหมาะสำหรับการเล่นเป็นกลุ่ม เพื่อส่งเสริมการสื่อสารและความมั่นใจในการใช้ภาษาในบรรยากาศที่เป็นกันเองและสนุกสนาน
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เหมาะกับกลุ่มเล็กตั้งแต่ 3-6 คน)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ลูกเต๋าพิเศษที่แต่ละด้านมีคำถามหรือหัวข้อสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ เช่น “What is your favorite food?”, “Describe your best friend.” หรือ “If you could travel anywhere, where would you go?”
- วิธีเล่น เล่นสลับกันทอยลูกเต๋า แล้วอ่านคำถามหรือหัวข้อที่ขึ้นมา จากนั้นผู้เล่นคนนั้นต้องตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ หรือพูดเกี่ยวกับหัวข้อนั้นๆ อย่างน้อย 1-2 ประโยค เพื่อฝึกพูดและคิดเป็นภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วขึ้น
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกพูดภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง พัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ เพิ่มคลังคำศัพท์และวลีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเสริมความมั่นใจและทักษะการสื่อสารแบบโต้ตอบกับผู้อื่น

4. เกมเขียนกระดาน (Board Race)
เกม “เขียนกระดาน (Board Race)” เป็นเกมการสอนภาษาอังกฤษแนวแข่งขันที่เน้นความเร็ว ความคิดไว และการทำงานเป็นทีม เหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มรู้จักคำศัพท์หรือโครงสร้างประโยคพื้นฐาน โดยผู้เล่นจะต้องรีบเขียนคำศัพท์หรือประโยคลงบนกระดานให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด เป็นเกมที่กระตุ้นความสนุกและความกระตือรือร้นในการเรียนได้เป็นอย่างดี
- จำนวนผู้เล่น 4 คนขึ้นไป (แบ่งเป็น 2 ทีมขึ้นไป)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม กระดานไวท์บอร์ดหรือกระดานดำ ปากกาไวท์บอร์ด กระดาษคำศัพท์หรือหัวข้อที่ใช้ในเกม
- วิธีเล่น แบ่งเด็กออกเป็นทีมละ 2-4 คน ยืนต่อแถวหน้ากระดาน ครูจะกำหนดหัวข้อ เช่น “คำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์” หรือ “คำที่ขึ้นต้นด้วยตัว B” เมื่อเริ่มเกม คนแรกของแต่ละทีมต้องรีบวิ่งไปเขียนคำที่เกี่ยวข้องบนกระดาน แล้วรีบกลับมาให้เพื่อนคนต่อไปวิ่งไปเขียนต่อ วนไปเรื่อยๆ ภายในเวลาที่กำหนด ทีมที่เขียนได้มากที่สุดและถูกต้องที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
- ทักษะที่ได้รับ พัฒนาทักษะการเขียนและสะกดคำภาษาอังกฤษ ฝึกการคิดอย่างรวดเร็ว เสริมความจำและการใช้คำศัพท์ตามหมวดหมู่ กระตุ้นความร่วมมือในการทำงานเป็นทีม และเพิ่มความสนุกสนานในการเรียนภาษา
5. เกมแฮงแมน (Hangman)
เกม “แฮงแมน (Hangman)” เป็นเกมทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษสุดคลาสสิกที่ทั้งสนุกและท้าทาย ช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกการสะกดคำ จดจำตัวอักษร และพัฒนาคลังคำศัพท์ในบรรยากาศที่สนุกสนานและไม่น่าเบื่อ เป็นเกมแนวคำศัพท์ที่สามารถเล่นได้ทั้งในห้องเรียนและที่บ้าน โดยเหมาะกับเด็กที่เริ่มเรียนรู้ตัวสะกด หรือกำลังฝึกเขียนคำภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐาน
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เล่นเป็นคู่หรือกลุ่มเล็กได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม กระดานไวท์บอร์ดหรือกระดาษ ปากกา หรือสามารถใช้แอป Hangman ออนไลน์ก็ได้
- วิธีเล่น ผู้เล่นคนหนึ่งคิดคำศัพท์ภาษาอังกฤษขึ้นมา 1 คำ แล้ววาดช่องว่างตามจำนวนตัวอักษร เช่นคำว่า “APPLE” จะวาดเป็น “_ _ _ _ _” ผู้เล่นคนอื่นต้องเดาทีละตัวอักษร หากเดาถูกให้เติมตัวอักษรลงในช่อง หากเดาผิดให้วาดส่วนต่างๆ ของ “คน” ที่ถูกแขวน เช่น หัว ตัว แขน ขา หากวาดครบก่อนเดาคำถูกถือว่าแพ้ แต่ถ้าเดาคำถูกก่อนวาดครบถือว่าชนะ
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกสะกดคำและจำตัวอักษร พัฒนาความรู้คำศัพท์ในหมวดหมู่ต่างๆ ฝึกการสังเกต การคิดเชิงตรรกะ และการวางแผน นอกจากนี้ยังส่งเสริมความสนุกสนานในการเรียนรู้ ทำให้เด็กไม่รู้สึกกดดันกับการจำคำศัพท์ใหม่ๆ
6. เกมจับผิดภาพ (What is Wrong with This Picture?)
เกม “เกมจับผิดภาพ (What is Wrong with This Picture?)” เป็นเกมการสอนภาษาอังกฤษแนววิเคราะห์ภาพที่ช่วยพัฒนาขบวนการคิดและภาษาอังกฤษเชิงบรรยาย เด็กๆ จะได้ดูภาพที่ตั้งใจใส่ความผิดพลาดไว้ เช่น ช้างบินได้ คนใส่รองเท้าไม่เข้าคู่ หรือวัตถุอยู่ผิดที่ผิดทาง แล้วพูดหรือเขียนออกมาว่า “อะไรผิด” ในภาพนั้น โดยต้องใช้คำศัพท์และโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษในการอธิบาย
เป็นเกมสนุกที่กระตุ้นสมองและฝึกการสังเกตในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับใช้เกมฝึกพูดภาษาอังกฤษหรือเขียนเชิงบรรยายในบริบทที่เด็กเข้าใจง่าย
- จำนวนผู้เล่น 1 คนขึ้นไป (เล่นเดี่ยวก็ได้ เล่นกลุ่มยิ่งสนุก)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ภาพที่มีความผิดปกติหรือภาพวาดที่ตั้งใจแทรกข้อผิดพลาดไว้ (สามารถหาได้จากหนังสือ เกมออนไลน์ หรือทำเองก็ได้) กระดาษและดินสอหากใช้ร่วมกับการเขียน
- วิธีเล่น ให้เด็กดูภาพที่มีความผิดปกติ แล้วถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “What is wrong with this picture?” เด็กจะต้องตอบด้วยประโยค เช่น
- “The sun is inside the house.”
- “The cat has three legs.”
- “The boy is wearing shoes on his hands.”
นอกจากนี้สามารถต่อยอดโดยให้เด็กเขียนคำตอบ หรือพูดอธิบายเพิ่มเติมว่าทำไมสิ่งนั้นถึงผิด เพื่อฝึกการใช้ภาษาในระดับลึกขึ้น
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการสังเกตและคิดวิเคราะห์ พัฒนาทักษะการพูดและเขียนภาษาอังกฤษในรูปแบบประโยค เพิ่มคลังคำศัพท์เกี่ยวกับสิ่งของ คน สัตว์ และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน และฝึกการใช้เหตุผลในภาษาอังกฤษ

7. เกมฉันอยากได้… (Bring Me…)
เกม “ฉันอยากได้… (Bring Me…)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแนวคำสั่งและโต้ตอบ เน้นการฟังและทำตามคำสั่งอย่างสนุกสนาน โดยผู้เล่นจะต้องฟังคำขอของผู้พูด เช่น “Bring me something red.” หรือ “Bring me a toy that makes noise.” แล้วรีบนำสิ่งของที่ตรงตามคำบรรยายมาให้ผู้สั่ง
เป็นเกมที่ช่วยให้เด็กฝึกฟังภาษาอังกฤษแบบเข้าใจบริบท พร้อมทั้งกระตุ้นให้เด็กเชื่อมโยงคำศัพท์กับสิ่งของจริงในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับเด็กเล็กถึงประถมต้น และสามารถเล่นได้ทั้งในบ้าน ห้องเรียน หรือสนามเด็กเล่น
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (ยิ่งหลายคนยิ่งสนุก อาจแบ่งเป็นทีมได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ของใช้รอบตัว เช่น สี ของเล่น หนังสือ เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์เรียน สามารถใช้ของจริง หรือภาพของสิ่งของก็ได้
- วิธีเล่น ผู้เล่นหนึ่งคนทำหน้าที่เป็นผู้ออกคำสั่ง เช่น “Bring me something blue.” หรือ “Bring me a book with animals.” ผู้เล่นคนอื่นจะต้องรีบไปหาสิ่งของที่ตรงกับคำสั่งแล้วนำมาให้ ภายในเวลาที่กำหนด หากใช้กับเด็กเล็ก สามารถชี้หรือหยิบของในห้องแทนการวิ่งไปหาได้ เพื่อเพิ่มความยาก สามารถใช้คำบรรยายที่ซับซ้อนขึ้น เช่น “Bring me something that starts with the letter B.” หรือ “Bring me something you use in the kitchen.”
- ทักษะที่ได้รับ พัฒนาทักษะการฟัง การทำความเข้าใจคำสั่งในภาษาอังกฤษ เพิ่มคลังคำศัพท์จากสิ่งของรอบตัว ฝึกเชื่อมโยงภาษาเข้ากับประสบการณ์จริง และเสริมทักษะการทำงานเป็นทีมและความเร็วในการตัดสินใจ

8. เกมตอบให้ทัน (Against Time)
เกม “ตอบให้ทัน (Against Time)” เป็นเกมการภาษาอังกฤษแนวฝึกคิดเร็วตอบไว ช่วยกระตุ้นทักษะภาษาอังกฤษในสถานการณ์ที่มีเวลาจำกัด ผู้เล่นต้องตอบคำถาม หรือบอกคำศัพท์ให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด
เกมนี้สร้างความตื่นเต้น สนุก และท้าทายความสามารถในการดึงคำศัพท์หรือประโยคภาษาอังกฤษออกมาใช้แบบรวดเร็ว ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกการใช้ภาษาแบบไม่ต้องคิดนานจนเครียด เหมาะกับการทบทวนคำศัพท์ หรือฝึกพูดในหัวข้อที่เรียนมาแล้ว
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เหมาะกับกลุ่ม 3 – 6 คน เล่นเดี่ยวหรือทีมก็ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม นาฬิกาหรือแอปจับเวลา บัตรคำหรือหัวข้อคำถาม เช่น “Name 3 fruits”, “Say a word that starts with B” หรือ “Name 2 animals that live in the ocean”
- วิธีเล่น ผู้เล่นจะผลัดกันสุ่มหัวข้อ แล้วมีเวลา 5–10 วินาที (ตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า) ในการตอบคำถามให้ถูกต้อง เช่น หากได้หัวข้อว่า “Name 3 colors” เด็กต้องพูดให้ได้ 3 สีในเวลาที่กำหนด เช่น “Red, Blue, Green” หากตอบทัน จะได้คะแนน หากตอบไม่ทันหรือผิด จะเสียคะแนนหรือส่งต่อให้เพื่อนคนถัดไป สามารถแบ่งเล่นเป็นรอบ หรือแข่งขันแบบสะสมคะแนนเพื่อเพิ่มความสนุก
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการคิดเร็วและตอบเร็วในภาษาอังกฤษ เพิ่มคลังคำศัพท์ในหมวดต่างๆ พัฒนาทักษะการพูด ฝึกการตัดสินใจภายใต้แรงกดดันเบาๆ และยังเสริมความมั่นใจในการใช้ภาษาจริงในชีวิตประจำวัน

9. เกมตามล่า หาสมบัติ (Treasure Hunt)
เกม “ตามล่า หาสมบัติ (Treasure Hunt)” เป็นเกมสื่อการสอนภาษาอังกฤษที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้ฝึกใช้คำศัพท์ การอ่านคำใบ้ และการสื่อสารระหว่างเล่นเกม โดยผู้เล่นต้องตามหาวัตถุหรือสิ่งของที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ตามคำใบ้ที่เป็นภาษาอังกฤษ เกมนี้เหมาะสำหรับสร้างความสนุกสนานและฝึกทักษะภาษาในสถานการณ์จริง
- จำนวนผู้เล่น 3 คนขึ้นไป (เล่นเป็นทีมหรือกลุ่มได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม กระดาษคำใบ้หรือการ์ดคำศัพท์ ของรางวัลหรือสมบัติที่ซ่อน อุปกรณ์เขียน เช่น ปากกาและกระดาษ
- วิธีเล่น ผู้สอนเตรียมคำใบ้เป็นภาษาอังกฤษที่นำทางผู้เล่นไปยังจุดต่างๆ ที่ซ่อน “สมบัติ” ผู้เล่นอ่านคำใบ้และใช้ทักษะฟัง-อ่าน-พูดในการตีความและหาร่องรอยจนเจอสมบัติ ทีมที่ตามหาสมบัติครบหรือได้คะแนนมากที่สุดเป็นผู้ชนะ
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกคำศัพท์และการอ่านคำใบ้เป็นภาษาอังกฤษ พัฒนาทักษะการฟังและการสื่อสารร่วมกันในทีม ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา รวมถึงเพิ่มความสนุกและแรงจูงใจในการเรียนภาษา
10. เกมแข่งกันร้องเพลง (Sing It Out Loud!)
เกม “แข่งกันร้องเพลง (Sing It Out Loud!)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแนวดนตรีและการแสดงออก ที่ผสมผสานความสนุกเข้ากับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้เล่นจะได้ฝึกร้องเพลงภาษาอังกฤษจากเพลงที่คุ้นเคยหรือเพลงเด็กยอดนิยม โดยเกมนี้ช่วยฝึกการออกเสียง จังหวะภาษา และความมั่นใจในการพูดหรือร้องออกเสียงภาษาอังกฤษผ่านเสียงเพลง เหมาะกับเด็กทุกวัย โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เรียนรู้ได้ดีผ่านเสียงและการเคลื่อนไหว
- จำนวนผู้เล่น 1 คนขึ้นไป (เล่นเดี่ยวได้ สนุกมากขึ้นเมื่อเล่นเป็นกลุ่มหรือทีม)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม พลงภาษาอังกฤษที่เหมาะกับวัย (เช่น “Twinkle Twinkle Little Star”, “If You’re Happy”, “Let It Go”) ลำโพง เนื้อเพลง หรือคาราโอเกะ และอุปกรณ์ประกอบ เช่น ไมค์ของเล่น
- วิธีเล่น ผู้เล่นจะเลือกเพลงภาษาอังกฤษที่ชอบหรือสุ่มจากรายชื่อที่กำหนดไว้ แล้วร้องเพลงนั้นออกมาให้ชัดเจนตามจังหวะ โดยสามารถแข่งขันกันในรูปแบบต่างๆ เช่น
- ใครร้องได้ถูกต้องที่สุด
- ใครร้องได้เสียงดังที่สุด
- ใครจำเนื้อร้องได้มากที่สุด
- แข่งกันเป็นทีมผลัดร้องแต่ละท่อน
นอกจากนี้สามารถเพิ่มความสนุกโดยให้ผู้เล่นแสดงท่าทางประกอบ หรือแต่งชุดตามธีมของเพลงก็ได้
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการออกเสียง และจังหวะภาษา พัฒนาความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาอังกฤษผ่านการจดจำวลีและประโยค เพิ่มคำศัพท์ใหม่จากเนื้อเพลง เสริมความมั่นใจในการพูดและแสดงออก และยังช่วยให้เด็กมีความสุขกับการเรียนรู้ในแบบที่เป็นธรรมชาติและสนุกสนาน
11. เกมบอร์ดเกมยักษ์ (Big Board Game)
เกม “บอร์ดเกมยักษ์ (Big Board Game)” เป็นเกมประกอบการสอนภาษาอังกฤษแนวเคลื่อนไหวที่ผสานระหว่างการเล่นเกมกระดานและการเรียนรู้คำศัพท์หรือประโยคภาษาอังกฤษ โดยผู้เล่นจะเคลื่อนที่ตามช่องบนกระดานขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนพื้น และต้องทำภารกิจ ตอบคำถาม หรือทำกิจกรรมตามที่ช่องระบุไว้ เป็นเกมที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการเคลื่อนไหว ซึ่งเหมาะมากสำหรับเด็กวัยเรียนรู้ที่ชอบกิจกรรมสนุกๆ และได้ขยับตัว
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เล่นเป็นรายบุคคลหรือแบ่งทีมก็ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม กระดานเกมขนาดใหญ่ (อาจใช้แผ่นผ้าหรือกระดาษวาดช่องเกมบนพื้น) ลูกเต๋าขนาดใหญ่, การ์ดคำถามหรือคำสั่ง เช่น “Name 3 animals”, “Act like a monkey”, “Spell the word ‘apple’” และตัวหมากแทนผู้เล่น (เด็กสามารถเป็นตัวหมากเองได้)
- วิธีเล่น ผู้เล่นผลัดกันทอยลูกเต๋า แล้วเดินตามจำนวนแต้มที่ได้ไปยังช่องบนกระดานยักษ์ เมื่อลงช่องใด จะต้องทำตามภารกิจที่เขียนไว้ เช่น
- ช่อง “Speak” พูดคำศัพท์ตามภาพ
- ช่อง “Act” แสดงท่าทางของคำศัพท์
- ช่อง “Spell” สะกดคำให้ถูกต้อง
หากทำได้สำเร็จจะได้อยู่ต่อ ถ้าทำผิดอาจต้องกลับหลัง 1 ช่องหรือรอ 1 รอบ เพื่อเพิ่มความสนุกและความท้าทาย
- ทักษะที่ได้รับ พัฒนาทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ในรูปแบบที่สนุกและเคลื่อนไหวได้จริง เสริมสร้างคลังคำศัพท์ ฝึกการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม เสริมสมาธิและความกล้าแสดงออก รวมถึงกระตุ้นการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่มีส่วนร่วมเต็มตัว

12. เกมกระโดดร่ม! (Parachute!)
เกม “กระโดดร่ม! (Parachute!)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแบบกลุ่มที่ผสมผสานระหว่างการเคลื่อนไหว การทำงานเป็นทีม และการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนาน โดยใช้ผ้าร่มหลากสีขนาดใหญ่เป็นอุปกรณ์หลัก เด็กๆ จะได้เรียนรู้คำศัพท์ คำสั่ง และประโยคภาษาอังกฤษผ่านการเล่นที่ต้องเคลื่อนไหวร่วมกัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กอนุบาลและประถมต้น เพราะได้ทั้งภาษาและการออกกำลังกายในเวลาเดียวกัน
- จำนวนผู้เล่น 6-20 คน (ยิ่งคนเยอะยิ่งสนุก เหมาะกับกิจกรรมกลุ่มใหญ่)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ผ้าร่มขนาดใหญ่ ลูกบอลพลาสติกหรือของเล่นเบาๆ การ์ดคำศัพท์หรือคำสั่ง
- วิธีเล่น ผู้เล่นแต่ละคนจับขอบของผ้าร่มไว้เป็นวงกลม แล้วทำกิจกรรมตามคำสั่งที่ครูหรือผู้นำเกมบอก เช่น
- “Shake the parachute fast!” (เขย่าผ้าร่มเร็วๆ)
- “Lift it up slowly!” (ยกผ้าร่มขึ้นช้าๆ)
- “Put the red ball in the middle!” (ใส่ลูกบอลสีแดงตรงกลาง)
- “If your name starts with A, run under the parachute!” (ถ้าชื่อขึ้นต้นด้วย A ให้วิ่งลอดผ้าร่ม)
กิจกรรมสามารถปรับให้ใช้ฝึกคำศัพท์ สี ตัวอักษร ตัวเลข หรือแม้แต่ประโยคพื้นฐานได้ตามระดับของเด็ก
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการฟังและทำตามคำสั่งภาษาอังกฤษ เรียนรู้คำศัพท์พื้นฐาน เช่น สี ตัวเลข ชื่อสัตว์ พัฒนาทักษะทางร่างกาย เช่น การทรงตัว การเคลื่อนไหว เสริมการทำงานเป็นทีม และสร้างความสนุกสนานในกลุ่ม

13. เกมต่อคำศัพท์ (Last Letter, First Letter)
เกม “ต่อคำศัพท์ (Last Letter, First Letter)” เป็นเกมสอนภาษาอังกฤษแนวคำศัพท์ที่ช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกคิดคำศัพท์ใหม่ๆ อย่างรวดเร็วผ่านการเล่นแบบต่อเนื่อง โดยผู้เล่นต้องพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วย “ตัวอักษรสุดท้าย” ของคำก่อนหน้า เช่น “Dog → Giraffe → Elephant” เป็นเกมที่เล่นง่าย แต่ท้าทายความจำและความเร็ว เหมาะกับการทบทวนคำศัพท์ในบรรยากาศที่สนุกสนาน และช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอย่างคล่องแคล่ว
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เล่นกลุ่ม 4-6 คนจะสนุกที่สุด)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ แต่สามารถใช้บัตรคำหรือกระดานเพื่อเขียนคำศัพท์ที่ต่อไว้ก็ได้
- วิธีเล่น ผู้เล่นคนแรกเริ่มพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น “Apple” คนถัดไปต้องพูดคำที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรสุดท้ายของคำก่อนหน้า เช่น “Elephant” คนต่อไปพูดคำที่ขึ้นต้นด้วย “T” เช่น “Tiger”
- ห้ามพูดคำซ้ำ และต้องตอบให้ทันเวลาที่กำหนด (เช่น 5 – 10 วินาที) หากใครนึกไม่ออกหรือตอบช้า จะออกจากรอบนั้นหรือเสียคะแนน สามารถเพิ่มความยากโดยกำหนดหมวดคำ เช่น สัตว์ อาหาร ของใช้ในบ้าน
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกคลังคำศัพท์และการจำตัวสะกด พัฒนาทักษะการคิดเร็ว ตอบไว ส่งเสริมการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง ฝึกสมาธิและความมั่นใจในการพูดต่อหน้าคนอื่น
14. เกมนี่/นั่นคืออะไร? (What is this/that?)
เกม “นี่/นั่นคืออะไร? (What is this/that?)” เป็นเกมสื่อการสอนภาษาอังกฤษแนวคำถามและตอบ ที่ช่วยฝึกเด็กๆ ให้รู้จักถามและตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งของรอบตัวโดยใช้ประโยคง่ายๆ เกมนี้เน้นการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ผ่านการชี้และบอกชื่อสิ่งของจริง ทำให้เด็กจดจำได้ดีและเข้าใจความหมายของคำศัพท์ในบริบทที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับเด็กเล็กที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ หรือใช้ทบทวนคำศัพท์พื้นฐาน
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เล่นเป็นกลุ่มหรือเดี่ยวก็ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม สิ่งของจริงในห้องเรียนหรือบ้าน เช่น ของเล่น อุปกรณ์เครื่องเขียน ผลไม้ หรือรูปภาพของสิ่งของต่างๆ
- วิธีเล่น ผู้เล่นหนึ่งคนถือหรือชี้สิ่งของแล้วถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “What is this?” (ถ้าของอยู่ใกล้) หรือ “What is that?” (ถ้าของอยู่ไกล) ผู้เล่นอีกคนจะตอบชื่อสิ่งของนั้น เช่น “It’s a ball.” หรือ “It’s a pencil.” สามารถสลับกันถาม-ตอบ หรือให้เด็กทายชื่อสิ่งของตามคำถามที่ครูหรือผู้เล่นคนอื่นถาม
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการตั้งคำถามและตอบคำถามอย่างถูกต้อง เพิ่มคลังคำศัพท์เกี่ยวกับสิ่งของรอบตัว ฝึกการฟังและออกเสียงประโยคพื้นฐาน ส่งเสริมความมั่นใจในการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง และช่วยให้เด็กเข้าใจการใช้คำชี้ “this” และ “that” อย่างถูกต้อง
15. เกมเคลื่อนไหวเป็นสัตว์ (Move Like an Animal)
เกม “เคลื่อนไหวเป็นสัตว์ (Move Like an Animal)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแนวเคลื่อนไหวและแสดงท่าทาง ช่วยให้เด็กได้ฝึกคำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ พร้อมทั้งได้ออกกำลังกายและฝึกการสื่อสารผ่านท่าทางการเคลื่อนไหวต่างๆ เกมนี้เน้นการเรียนรู้แบบสนุกสนานและกระตุ้นพัฒนาการร่างกาย เหมาะสำหรับเด็กเล็กถึงประถมต้นที่ชอบกิจกรรมเคลื่อนไหวและเรียนรู้ผ่านการเล่น
- จำนวนผู้เล่น 3 คนขึ้นไป (เล่นเป็นกลุ่มจะสนุกและได้ประโยชน์มากกว่า)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ไม่มีอุปกรณ์จำเป็น สามารถใช้บัตรคำภาพสัตว์เพื่อช่วยเลือกสัตว์หรือแสดงคำศัพท์
- วิธีเล่น ครูหรือผู้เล่นคนหนึ่งเลือกชื่อสัตว์เป็นภาษาอังกฤษแล้วบอกให้เด็กๆ เคลื่อนไหวและทำท่าทางเหมือนสัตว์นั้น เช่น กระโดดเหมือนกบ เลื่อยเหมือนงู เดินเหมือนช้าง ผู้เล่นคนอื่นๆ จะต้องทายว่าสัตว์นั้นคืออะไร โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษ เช่น “You are a frog!” สามารถสลับกันเป็นคนบอกหรือเลือกสัตว์เพื่อให้เพื่อนเคลื่อนไหวตามได้
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกคำศัพท์ชื่อสัตว์และลักษณะการเคลื่อนไหว พัฒนาทักษะฟังและพูดผ่านการโต้ตอบ ส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายและการประสานงานระหว่างมือ ตา เท้า และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมสนุกๆ

16. เกมฉันคู่กับเธอ (Who is your partner?)
เกม “ฉันคู่กับเธอ (Who is your partner?)” เป็นเกมฝึกพูดภาษาอังกฤษแนวโต้ตอบและทำความรู้จักกัน ที่ช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับตัวเองและเพื่อนผ่านประโยคง่ายๆ เช่น การแนะนำตัว หรือถามหาคู่ที่มีลักษณะตรงกัน เช่น สีที่ชอบ งานอดิเรก หรือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง เกมนี้เหมาะสำหรับเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนฝูงและฝึกใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงอย่างเป็นธรรมชาติ
- จำนวนผู้เล่น 4 คนขึ้นไป (เล่นเป็นกลุ่มยิ่งสนุก)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การ์ดคำถามหรือการ์ดคำศัพท์ที่ใช้จับคู่ เช่น สี ผลไม้ ตัวเลข หรือสิ่งของต่างๆ
- วิธีเล่น แจกการ์ดคำศัพท์ให้ผู้เล่นแต่ละคน โดยที่แต่ละการ์ดมีคู่ที่ตรงกัน เช่น “Apple” กับ “Red” หรือ “Cat” กับ “Meow” ผู้เล่นต้องเดินหาคู่ที่ตรงกับการ์ดของตัวเองโดยถามเป็นภาษาอังกฤษ เช่น “Who is your partner?” หรือ “Do you have red?” เมื่อเจอคู่ที่ตรงกันแล้วให้ยืนจับมือหรือยืนคู่กัน จากนั้นกลุ่มสามารถถาม-ตอบเกี่ยวกับคำศัพท์นั้นๆ เพิ่มเติมเพื่อฝึกพูดและฟัง
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการถาม-ตอบเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ เพิ่มคลังคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมทักษะการสื่อสารและการฟัง รวมถึงสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาในสถานการณ์โต้ตอบจริงและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่ม

17. เกมใครไม่เข้าพวก (Who is different?)
เกม “ใครไม่เข้าพวก (Who is different?)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแนววิเคราะห์และจำแนก ที่ช่วยฝึกให้เด็กๆ รู้จักการสังเกตความแตกต่างของสิ่งของหรือคำศัพท์ในกลุ่มเดียวกัน โดยผู้เล่นจะต้องหาว่า “ใคร” หรือ “สิ่งใด” ที่ไม่เหมือนหรือต่างจากส่วนที่เหลือ เกมนี้สนุกและกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ พร้อมส่งเสริมคลังคำศัพท์และการใช้ภาษาอังกฤษเพื่ออธิบายความแตกต่างอย่างง่ายๆ
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เหมาะสำหรับกลุ่มเล็กถึงกลาง)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การ์ดคำศัพท์หรือรูปภาพคำศัพท์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เช่น ผลไม้ สัตว์ สี หรือของใช้
- วิธีเล่น แจกการ์ดให้ผู้เล่นแต่ละคน หรือวางการ์ดชุดหนึ่งให้ดูพร้อมกัน เช่น การ์ดภาพ “Apple”, “Banana”, “Car”, “Orange” ผู้เล่นต้องสังเกตและตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า “Who is different?” หรือ “What is different?” แล้วบอกเหตุผล เช่น “Car is different because it is not a fruit.” สลับกันเล่นจนหมดชุดคำศัพท์ เพื่อฝึกการอธิบายและใช้คำศัพท์อย่างถูกต้อง
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการสังเกตและวิเคราะห์ความแตกต่าง พัฒนาทักษะการพูดและใช้ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ เพิ่มคลังคำศัพท์และความเข้าใจเรื่องหมวดหมู่สิ่งของ ส่งเสริมการคิดเชิงตรรกะ และเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษา
18. เกมถอดรหัส (Unscramble)
เกม “ถอดรหัส (Unscramble)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแนวคำศัพท์ ที่ฝึกให้เด็กเรียงตัวอักษรให้เป็นคำศัพท์ที่ถูกต้องจากชุดอักษรที่สลับตำแหน่งไว้ เช่น “P-A-E-P-L” ให้เรียงเป็น “APPLE” เป็นเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะการสะกดคำ การจดจำคำศัพท์ และการคิดอย่างเป็นระบบ เหมาะกับเด็กที่เริ่มเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานและต้องการเสริมความมั่นใจในการเขียนและสะกดคำ
- จำนวนผู้เล่น 1 คนขึ้นไป (เล่นคนเดียวได้ หรือแข่งขันกันเป็นกลุ่มก็ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม บัตรคำหรือกระดาษที่มีตัวอักษรสลับ กระดานไวท์บอร์ดหรือสมุดจด อาจใช้แอปหรือสไลด์คำสลับในกิจกรรมออนไลน์ก็ได้
- วิธีเล่น ผู้เล่นจะได้รับคำที่ถูกสลับตัวอักษรไว้ เช่น “R-E-T-A-W” แล้วต้องพยายามเรียงใหม่ให้ถูกต้องเป็น “WATER” ครูสามารถกำหนดเวลานับถอยหลัง (เช่น 30 วินาทีต่อคำ) เพื่อเพิ่มความท้าทาย และให้คะแนนเมื่อเรียงถูก สามารถเล่นแบบเดี่ยวหรือเป็นทีมผลัดกันตอบ หากใช้คำศัพท์จากหมวดหมู่ เช่น สัตว์ อาหาร ของใช้ในบ้าน ก็จะช่วยให้เชื่อมโยงการเรียนได้มากขึ้น
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการสะกดคำ และจดจำรูปแบบคำศัพท์ เสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และจัดลำดับ เพิ่มคลังคำศัพท์ในหมวดต่างๆ ส่งเสริมความสนุกในการเรียนภาษาแบบไม่รู้ตัว และช่วยให้เด็กมั่นใจในการเขียนคำศัพท์อย่างถูกต้องมากขึ้น
19. เกมเช็กร่างกาย (Check your body)
เกม “เช็กร่างกาย (Check your body)” เป็นเกมภาษาอังกฤษแนวเคลื่อนไหวและการชี้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ที่ช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับร่างกายผ่านการฟังคำสั่งและการเคลื่อนไหวตาม เป็นเกมที่เหมาะมากสำหรับเด็กเล็ก เพราะผสมผสานการเรียนรู้กับการขยับร่างกายอย่างสนุกสนาน
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เล่นได้ทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่มใหญ่)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ แต่สามารถใช้ภาพประกอบ หรือเพลงประกอบ เช่น “Head, Shoulders, Knees and Toes” เพื่อเพิ่มความสนุก
- วิธีเล่น ครูหรือผู้นำเกมพูดคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษ เช่น “Touch your ears” หรือ “Point to your shoulders” เด็กๆ ต้องทำท่าทางให้ตรงกับคำสั่ง หากทำผิดจะออกจากรอบนั้น หรือให้เริ่มใหม่แบบไม่ตัดออก เพื่อคงบรรยากาศสนุก สามารถเพิ่มระดับความยากได้ด้วยคำสั่งซ้อน เช่น “Touch your head and jump 2 times” หรือเล่นเป็นเกมความเร็ว ใครทำถูกและเร็วที่สุดได้คะแนน
- ทักษะที่ได้รับ เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ พัฒนาทักษะการฟังและทำตามคำสั่ง ฝึกการจดจำและการประสานงานของร่างกาย เสริมความมั่นใจในการตอบสนองต่อภาษาอังกฤษ และสร้างบรรยากาศการเรียนที่สนุกไม่น่าเบื่อ

20. เกมทายสิ นี่ใคร (Guess Who?)
เกม “ทายสิ นี่ใคร (Guess Who?)” เป็นเกมฝึกพูดภาษาอังกฤษแนวคำถาม-คำตอบ ที่ช่วยฝึกการใช้ภาษาเพื่อถาม ลักษณะของบุคคลหรือสิ่งของ โดยผู้เล่นจะต้องทายว่า “ใคร” หรือ “ตัวไหน” ที่เพื่อนกำลังคิดอยู่ผ่านการถามคำถามเชิงบรรยาย เกมนี้สนุกและได้ฝึกภาษาเชิงสื่อสารอย่างมีเป้าหมาย เหมาะกับเด็กที่เริ่มใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนา
- จำนวนผู้เล่น 2 คนขึ้นไป (เล่นเป็นคู่หรือกลุ่มเล็กก็ได้)
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การ์ดภาพคน ตัวละคร สัตว์ หรือใช้กระดานเกม Guess Who สำเร็จรูปก็ได้
- วิธีเล่น แต่ละคนเลือกตัวละครลับจากการ์ดหรือกระดาน (โดยไม่ให้เพื่อนรู้) ผู้เล่นผลัดกันถามคำถามเกี่ยวกับลักษณะของตัวละคร เช่น “Is your person a girl?”, “Does he have a hat?” ฝ่ายตรงข้ามต้องตอบ “Yes” หรือ “No” ผู้ถามต้องใช้คำตอบเหล่านั้นในการคัดตัวเลือกออกจนเหลือเพียงหนึ่งเดียว แล้วจึงเดา “Is it John?” ใครทายถูกก่อนเป็นผู้ชนะ
- ทักษะที่ได้รับ ฝึกการตั้งคำถามและตอบคำถามอย่างถูกต้อง พัฒนาคำศัพท์เกี่ยวกับลักษณะภายนอก เช่น สีผม สีตา เสื้อผ้า ฝึกทักษะการฟังและจับใจความ ส่งเสริมตรรกะ การคิดวิเคราะห์ และการใช้ภาษาอังกฤษเชิงสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ

เคล็ดลับใช้เกมสอนภาษาอังกฤษให้ได้ผลมากที่สุด
การใช้เกมประกอบการสอนภาษาอังกฤษให้ได้ผล ไม่ใช่แค่เรื่องของความสนุกเท่านั้น แต่ต้องมีเทคนิคประกอบด้วย เพื่อให้เด็กๆ ได้ทั้งความรู้และประสบการณ์การใช้ภาษาจริงอย่างมีประสิทธิภาพ ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ดู รับรองว่าการเรียนจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป!
- เลือกเกมให้เหมาะกับช่วงวัยและระดับภาษา เกมที่ง่ายเกินไปหรือยากเกินไปอาจทำให้เด็กเบื่อหรือท้อ ควรเลือกให้เหมาะกับทักษะของเด็กในช่วงนั้นๆ
- ตั้งเป้าหมายก่อนเล่น ควรกำหนดว่าอยากให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ พูดประโยค หรือฝึกฟัง เพื่อให้การเล่นเกมมีทิศทางชัดเจน
- สร้างบรรยากาศสนุก ไม่กดดัน หลีกเลี่ยงการเน้นการแข่งขันมากเกินไป ควรเน้นความร่วมมือและความมั่นใจในการใช้ภาษา
- ปรับระดับตามช่วงวัย เด็กเล็กอาจเน้นเกมที่ใช้ภาพและการเคลื่อนไหว ส่วนเด็กโตสามารถเล่นเกมใช้เหตุผลหรือโต้ตอบได้มากขึ้น
- เล่นบ่อยแต่ไม่บังคับ ความต่อเนื่องสำคัญ แต่ไม่ควรยัดเยียด ควรเล่นเมื่อเด็กพร้อมและอยากมีส่วนร่วม
- สลับเกมหลากหลาย การเปลี่ยนรูปแบบเกมช่วยกระตุ้นความสนใจและพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เช่น ฟัง พูด อ่าน เขียน
- ให้เด็กมีส่วนร่วมออกแบบเกม ลองให้เด็กเสนอไอเดียหรือช่วยเตรียมอุปกรณ์ จะช่วยเพิ่มความตื่นตัวและรู้สึกเป็นเจ้าของการเรียนรู้
- สรุปบทเรียนหลังเล่นเกม ทบทวนคำศัพท์ ประโยค หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเกมแบบสั้นๆ ช่วยให้เด็กจดจำได้ดียิ่งขึ้น
การใช้เกมสอนภาษาอังกฤษไม่ได้มีแค่เล่นแล้วจบ แต่สามารถต่อยอดเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ที่ทรงพลังได้ หากนำมาใช้อย่างตั้งใจและสร้างสรรค์!
สรุป
การใช้เกมสอนภาษาอังกฤษเป็นวิธีที่ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ได้อย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ เพราะเกมช่วยกระตุ้นให้เด็กมีส่วนร่วม ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษา หากคุณเป็นพ่อแม่หรือคุณครู ลองเลือกเกมง่ายๆ ไปใช้กับลูกหรือกับนักเรียน แล้วค่อยๆ ปรับให้เหมาะกับวัยและบริบทของเด็กแต่ละคน ไม่ว่าจะเล่นที่บ้านหรือในห้องเรียน เกมก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนให้เต็มไปด้วยรอยยิ้มและการเรียนรู้อย่างแท้จริง!
ที่ Speak Up เราเชื่อว่า “ภาษา” ไม่ใช่แค่สิ่งที่ต้องท่องจำ แต่คือทักษะที่เด็กๆ ควรได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง สถาบันของเราจึงออกแบบหลักสูตรสำหรับเด็กอายุ 2.5-12 ปี โดยใช้แนวคิดมอนเตสซอรี่ (Montessori) ที่เน้นการเรียนรู้แบบเป็นธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมที่เด็กได้ลงมือทำจริง เรียนรู้เสริมสร้างพัฒนาการรอบด้าน ทั้งยังพัฒนาทักษะภาษาไปพร้อมๆ กับความมั่นใจและความคิดสร้างสรรค์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเกมสอนภาษาอังกฤษ (FAQ)
หลายคนอาจมีคำถามในใจเกี่ยวกับเกมสอนภาษาอังกฤษ เราได้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และคุณครูนำเกมไปใช้ได้อย่างมั่นใจและพัฒนาเด็กได้อย่างเต็มที่!
เกมสอนภาษาอังกฤษช่วยพัฒนาทักษะอะไรได้บ้าง?
เด็กจะได้ฝึกฟังคำสั่ง พูดโต้ตอบ ออกเสียงคำศัพท์ และเขียนคำในบริบทสนุกๆ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม และความมั่นใจในการใช้ภาษา เป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำที่ช่วยให้เด็กจดจำและใช้งานภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เกมภาษาอังกฤษเหมาะกับเด็กอายุกี่ปี?
เกมภาษาอังกฤษสามารถปรับใช้ได้กับเด็กหลากหลายช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กประมาณ 2 – 3 ปี ที่เริ่มรู้จักคำศัพท์ง่ายๆ ไปจนถึงเด็กโตที่สามารถเล่นเกมที่ซับซ้อนขึ้นได้ การเลือกเกมให้เหมาะสมกับอายุและระดับความสามารถของเด็กเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยกระตุ้นความสนใจและส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้เด็กเรียนรู้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติและสนุกสนานในเวลาเดียวกัน
เกมไหนช่วยฝึกคำศัพท์ได้ดีที่สุด?
เกมที่ช่วยฝึกคำศัพท์ได้ดีที่สุดมักเป็นเกมที่เน้นการจับคู่ภาพกับคำ หรือเกมคำศัพท์ที่ให้เด็กได้เห็นรูปภาพและพูดหรือเขียนคำศัพท์ออกมา เช่น เกมจับคู่คำศัพท์ หรือเกมต่อคำศัพท์ เพราะเกมเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างคลังคำศัพท์ผ่านการมองเห็นและการใช้จริง ทำให้เด็กจดจำคำศัพท์ได้ดีและนำไปใช้ได้อย่างมั่นใจ
เริ่มต้นยังไงให้เด็กไม่เครียด?
ควรเลือกเกมที่ง่าย สนุก และไม่เน้นการแข่งขันมากเกินไป เพื่อสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง ให้เด็กได้เล่นอย่างสบายใจและมีส่วนร่วมมากที่สุด การชมเชยและให้กำลังใจบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้เด็กรู้สึกว่าการเรียนภาษาเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่ภาระ