การนับเลขภาษาจีน ถือเป็นพื้นฐานของการเรียนภาษาจีนเลยก็ว่าได้ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องยาก และท้าทาย เพราะระบบการนับเลขของจีนถึงจะดูง่าย แต่ก็ต้องเข้าใจพื้นฐาน หลักการ และเงื่อนไขบางอย่าง บทความนี้ จึงขอชวนน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองที่อยากจะเริ่มต้นสอนภาษาจีนให้เด็กๆ มาเริ่มเรียนนับเลขภาษาจีนกันได้ง่ายๆ นับได้ตั้งแต่หลักหน่วยไปจนถึงหลักล้าน พร้อมดูข้อยกเว้นและกฎในการนับเลขจีนกลาง ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย

การเรียนนับเลขภาษาจีนสำคัญอย่างไร
การที่เด็กๆ สามารถนับเลขภาษาจีนได้นั้น มีความสำคัญมากในการเรียนภาษาจีนและการนำไปใช้งานจริง เช่น เวลาไปซื้อของก็สามารถบอกจำนวนที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง ถ้าหากอยากจะจองโต๊ะที่ร้านอาหารหรือทำการนัดหมายใดๆ ก็สามารถระบุวันและเวลาได้ อีกทั้งยังช่วยในการเรียนรู้คำสแลงต่างๆ ในภาษาจีน และหลีกเลี่ยงตัวเลขอัปมงคลที่เป็นความเชื่อของวัฒนธรรมจีน

ตัวเลขพื้นฐานในภาษาจีน
ตัวเลข | อักษรจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
1 | 一 | yī | อี | หนึ่ง |
2 | 二 | èr | เอ้อร์ | สอง |
3 | 三 | sān | ซาน | สาม |
4 | 四 | sì | ซื่อ | สี่ |
5 | 五 | wǔ | หวู่ | ห้า |
6 | 六 | liù | ลิ่ว | หก |
7 | 七 | qī | ชี | เจ็ด |
8 | 八 | bā | ปา | แปด |
9 | 九 | jiǔ | จิ่ว | เก้า |
0 | 零 | líng | หลิง | ศูนย์ |
ข้อควรรู้เกี่ยวกับตัวเลขพื้นฐาน
- เลข 0 หรือ 零 ซึ่งอ่านว่า líng (หลิง) ที่แปลว่าเลขศูนย์ในการนับเลขภาษาจีน ในบางครั้งจะเห็นการใช้อักขระ 〇 ซึ่งจะอ่านว่า líng (หลิง) และแปลว่าเลขศูนย์เช่นกัน
- เลข 1 ตามปกติแล้วเลขหนึ่งในภาษาจีนจะออกเสียงว่า yī (อี) แต่ถ้าในสถานการณ์ที่บอกเบอร์โทรศัพท์ เลขที่บ้าน หรือเลขที่ห้อง มักจะพูดว่า 幺 ซึ่งออกเสียงว่า yāo (เยา) แทน
- เลข 2 ส่วนใหญ่แล้วเลขสองในการนับตัวเลขภาษาจีนและการบอกเบอร์โทรศัพท์จะใช้ 二 ที่อ่านว่า èr (เอ้อร์) แต่ถ้าเป็นการบอกจำนวนหรือปริมาณจะใช้คำว่า 两 ซึ่งอ่านว่า liǎng (เหลี่ยง)
- เลข 4 ตามความเชื่อของจีน หมายเลขสี่เป็นเหมือนเลขอัปมงคลที่จะนำพาความโชคร้ายเข้ามา เพราะเลขสี่ออกเสียงว่า sì (ซื่อ) ซึ่งออกเสียงคล้ายกับคำว่า 死 sǐ (สื่อ) ที่มีความหมายว่า ตาย จึงเป็นเลขที่ชาวจีนมักจะหลีกเลี่ยงกัน โดยเฉพาะการให้ของผู้อื่น จะไม่ให้จำนวนสี่ชิ้น และอาคารต่างๆ ก็จะไม่มีชั้นสี่เช่นกัน
ตัวอย่างเลขที่ควรรู้
- ตัวอย่างการอ่านเบอร์โทรศัพท์เป็นภาษาจีน เช่น 0985715312 อ่านว่า líng jiǔ bā wǔ qī yāo wǔ sān yāo èr (หลิง จิ่ว ปา หวู่ ชี เยา หวู่ ซาน เยา เอ้อร์)
- ตัวอย่างการใช้เลขสองในการบอกจำนวนและปริมาณ เช่น 两个橙子 liǎng gè chéngzi (เหลี่ยง เก้อ เฉิงจึ) แปลว่า ส้ม 2 ผล

การนับเลขในภาษาจีนหลักสิบ
นับเลขภาษาจีนในหลักหน่วยกันไปแล้ว การนับเลขหลักสิบในภาษาจีนมีหน่วยการนับเป็น 十 (shí) ซึ่งแปลว่า 10 โดยสามารถนับได้ดังนี้
ตัวเลข | อักษรจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
10 | 十 | shí | สือ | สิบ |
11 | 十一 | shíyī | สืออี | สิบเอ็ด |
12 | 十二 | shíèr | สือเอ้อร์ | สิบสอง |
13 | 十三 | shísān | สือซาน | สิบสาม |
14 | 十四 | shísì | สือซื่อ | สิบสี่ |
15 | 十五 | shíwǔ | สือหวู่ | สิบห้า |
16 | 十六 | shíliù | สือลิ่ว | สิบหก |
17 | 十七 | shíqī | สือชี | สิบเจ็ด |
18 | 十八 | shíbā | สือปา | สิบแปด |
19 | 十九 | shíjiǔ | สือจิ่ว | สิบเก้า |
20 | 二十 | èrshí | เอ้อร์สือ | ยี่สิบ |
30 | 三十 | sānshí | ซานสือ | สามสิบ |
40 | 四十 | sìshí | ซื่อสือ | สี่สิบ |
50 | 五十 | wǔshí | หวู่สือ | ห้าสิบ |
60 | 六十 | liùshí | ลิ่วสือ | หกสิบ |
70 | 七十 | qīshí | ชีสือ | เจ็ดสิบ |
80 | 八十 | bāshí | ปาสือ | แปดสิบ |
90 | 九十 | jiǔshí | จิ่วสือ | เก้าสิบ |
ข้อควรรู้เกี่ยวกับตัวเลขหลักสิบ
สามารถสังเกตเห็นได้ว่าการนับเลขภาษาจีนในหลักสิบ เป็นการนำเอาเลข 10 มารวมกับเลขตัวอื่นๆ เช่น 20, 30, 40 … มีการใช้รูปแบบเดียวกัน และมีความคล้ายคลึงกันกับในภาษาไทย เพียงแค่เอาเลขด้านหน้าตามด้วยหลักสิบ ทำให้จำแค่เพียงจำเลข 1-10 ก็สามารถประกอบเป็นเลขได้เกือบครบ 100 แล้ว
ตัวอย่างเลขที่ควรรู้
- ตัวอย่างการรวมเลขในหลักสิบ เช่น 55 ในภาษาจีนคือ 五十五 wǔshíwǔ (หวู่ สือ หวู่) หรือ 73 ในภาษาจีนคือ 七十三 qīshísān (ชี สือ ซาน)

การนับเลขในภาษาจีนหลักร้อย
การนับเลขหลักร้อยมีหน่วยการนับเป็น 百 อ่านว่า bǎi (ไป่) หรือ 一百 อ่านว่า yìbǎi (อีไป่) ซึ่งแปลว่า 100 โดยสามารถนับเลขภาษาจีนหลักร้อยได้ดังนี้
ตัวเลข | อักษรจีน | พินอิน | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
100 | 一百 | yìbǎi | อีไป่ | หนึ่งร้อย |
101 | 一百零一 | yìbǎi líng yī | อีไป่หลิงอี | หนึ่งร้อยเอ็ด |
102 | 一百零二 | yìbǎi líng èr | อีไป่หลิงเอ้อร์ | หนึ่งร้อยสอง |
103 | 一百零三 | yìbǎi líng sān | อีไป่หลิงซาน | หนึ่งร้อยสาม |
104 | 一百零四 | yìbǎi líng sì | อีไป่หลิงซื่อ | หนึ่งร้อยสี่ |
105 | 一百零五 | yìbǎi líng wǔ | อีไป่หลิงหวู่ | หนึ่งร้อยห้า |
106 | 一百零六 | yìbǎi líng liù | อีไป่หลิงลิ่ว | หนึ่งร้อยหก |
107 | 一百零七 | yìbǎi líng qī | อีไป่หลิงชี | หนึ่งร้อยเจ็ด |
108 | 一百零八 | yìbǎi líng bā | อีไป่หลิงปา | หนึ่งร้อยแปด |
109 | 一百零九 | yìbǎi líng jiǔ | อีไป่หลิงจิ่ว | หนึ่งร้อยเก้า |
110 | 一百一十 | yìbǎi yī (shí) | อีไป่อี (สือ) | หนึ่งร้อยสิบ |
129 | 一百二十九 | yìbǎi èrshíjiǔ | อีไป่เอ้อร์สือจิ่ว | หนึ่งร้อยยี่สิบเก้า |
175 | 一百七十五 | yìbǎi qīshíwǔ | อีไป่ชีสือหวู่ | หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้า |
200 | 二百, 两百 | èrbǎi, liǎngbǎi | เอ้อร์ไป่, เหลียงไป่ | สองร้อย |
300 | 三百 | sānbǎi | ซานไป่ | สามร้อย |
ข้อควรรู้เกี่ยวกับตัวเลขหลักร้อย
วิธีนับเลขภาษาจีนของตัวเลข 100-109 จะมีความแตกต่างจากไทยอยู่นิดหน่อยตรงที่จะใช้คำว่า 零 (líng) ที่แปลว่า เลขศูนย์ คั่นระหว่างคำว่า 一百 (yìbǎi) ที่อยู่ข้างหน้ากับเลขตัวเลขหลักหน่วยที่อยู่ด้านหลัง และควรระมัดระวังการใช้เลข 250 เพราะในจีน 250 มีความหมายแฝงที่ไม่ดี หมายถึงงี่เง่าหรือโง่ ใช้เป็นคำดูถูกผู้อื่น

การนับเลขในภาษาจีนตั้งแต่ 1,000 ขึ้นไป
การนับเลขจีนกลางในหลักพันขึ้นไป ที่สามารถพบเห็นได้เป็นประจำ เด็กๆ จำเป็นต้องรู้ไว้เป็นพื้นฐาน มีดังนี้
จำนวนครั้ง | อักษรจีน | พินอิน | คำอ่าน |
---|---|---|---|
หนึ่งครั้ง | 一次 | yīcì | อีชื่อ |
สองครั้ง | 两次 | liǎngcì | เหลี่ยงชื่อ |
สามครั้ง | 三次 | sāncì | ซานชื่อ |
สี่ครั้ง | 四次 | sìcì | ซื่อชื่อ |
ห้าครั้ง | 五次 | wǔcì | หวู่ชื่อ |
หกครั้ง | 六次 | liùcì | ลิ่วชื่อ |
เจ็ดครั้ง | 七次 | qīcì | ชีชื่อ |
แปดครั้ง | 八次 | bācì | ปาชื่อ |
เก้าครั้ง | 九次 | jiǔcì | จิ่วชื่อ |
สิบครั้ง | 十次 | shícì | สือชื่อ |
ข้อควรรู้เกี่ยวกับตัวเลขหลักพัน
ตัวเลขหลักพันขึ้นไปในภาษาจีน ก็มีหลักการเดียวกันกับเลขหลักสิบและหลักร้อย โดยสามารถเอามารวมกันได้เลย และการรวมกันของหลักก็ทำให้เกิดเป็นหลักใหม่ อย่างหลัก 10 กับ 10,000 รวมเป็น 十万 (shí wàn) ซึ่งมีความหมายว่าหนึ่งแสน
ตัวอย่างเลขที่ควรรู้
- 37,850 三万七千八百五十 sān wàn qī qiān bā bǎi wǔ shí (ซาน ว่าน ชี เชียน ปา ไป่ หวู่ สือ)
- 102,046 十万两千四十六 shí wàn liǎng qiān sì shí liù (สือ ว่าน เหลี่ยง เชียน ซื่อ สือ ลิ่ว)

การนับเลขลำดับที่ในภาษาจีน
เรียนนับเลขภาษาจีนกันไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าหากต้องการนับเป็นลำดับที่จะต้องทำอย่างไร ไม่ยากเลย เพียงแค่ใช้คำว่า 第 อ่านว่า dì (ตี้) ซึ่งแปลว่า ที่ มานำหน้าตัวเลขลำดับที่ต้องการ ดังนี้
จำนวนครั้ง | อักษรจีน | พินอิน | คำอ่าน |
---|---|---|---|
หนึ่งครั้ง | 一次 | yīcì | อีชื่อ |
สองครั้ง | 两次 | liǎngcì | เหลี่ยงชื่อ |
สามครั้ง | 三次 | sāncì | ซานชื่อ |
สี่ครั้ง | 四次 | sìcì | ซื่อชื่อ |
ห้าครั้ง | 五次 | wǔcì | หวู่ชื่อ |
หกครั้ง | 六次 | liùcì | ลิ่วชื่อ |
เจ็ดครั้ง | 七次 | qīcì | ชีชื่อ |
แปดครั้ง | 八次 | bācì | ปาชื่อ |
เก้าครั้ง | 九次 | jiǔcì | จิ่วชื่อ |
สิบครั้ง | 十次 | shícì | สือชื่อ |
ตัวอย่างการนับลำดับเลข
- ลำดับที่ 32 第三十二 dì sān shí èr (ตี้ ซาน สือ เอ้อร์)
- ลำดับที่ 539 第五百三十九 dì wǔ bǎi sān shí jiǔ (ตี้ หวู ไป่ ซาน สือ จิ่ว)

การนับเลขจำนวนครั้งในภาษาจีน
การบอกจำนวนครั้งในภาษาจีนก็ง่ายมากเช่นเดียวกัน เพียงเติมคำว่า 次 อ่านว่า cì (ชื่อ) ที่แปลว่า ครั้ง ตามหลังตัวเลขที่ต้องการ ดังนี้
จำนวนครั้ง | อักษรจีน | พินอิน | คำอ่าน |
---|---|---|---|
หนึ่งครั้ง | 一次 | yīcì | อีชื่อ |
สองครั้ง | 两次 | liǎngcì | เหลี่ยงชื่อ |
สามครั้ง | 三次 | sāncì | ซานชื่อ |
สี่ครั้ง | 四次 | sìcì | ซื่อชื่อ |
ห้าครั้ง | 五次 | wǔcì | หวู่ชื่อ |
หกครั้ง | 六次 | liùcì | ลิ่วชื่อ |
เจ็ดครั้ง | 七次 | qīcì | ชีชื่อ |
แปดครั้ง | 八次 | bācì | ปาชื่อ |
เก้าครั้ง | 九次 | jiǔcì | จิ่วชื่อ |
สิบครั้ง | 十次 | shícì | สือชื่อ |
ตัวอย่างการนับจำนวนครั้ง
- 48 ครั้ง 四十八次 sì shí bā cì (ซื่อ สือ ปา ชื่อ)
- 133 ครั้ง 一百三十三次 yì bǎi sān shí sān cì (อี ไป่ ซาน สือ ซาน ชื่อ)
สรุป
การนับเลขภาษาจีนไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ เพียงแค่จำตัวเลขหลักหน่วย 10 ตัว และจำหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน และหลักหมื่น รวมถึงรู้หลักการและข้อควรรู้ต่างๆ อีกเล็กน้อย ก็สามารถนำมาผสมรวมกันจนสามารถนับเลขภาษาจีนได้ถึงหลักล้านแล้ว การได้สอนลูกๆ หรือเด็กๆ ให้เริ่มหัดเรียนเลขภาษาจีนจะช่วยให้เด็กค่อยๆ จดจำได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ ที่ Speak Up Language Center มีหลักสูตรภาษาจีนสำหรับเด็กเล็ก 2.5-12 ปี เริ่มตั้งแต่พื้นฐานอย่างการนับเลข ไปจนถึงการสนทนาเป็นประโยค ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ภาษาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และสามารถต่อยอดได้ในอนาคต
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการนับเลขภาษาจีน (FAQ)
การ นับเลขภาษาจีน ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ภาษาจีน ที่จะช่วยให้การสื่อสารในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น แม้จะดูเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีหลักการและข้อยกเว้นที่น่าสนใจ Speak Up Language Center ได้รวบรวมข้อสงสัยที่พบบ่อยมานำเสนอ
ทำไมการเรียนนับเลขภาษาจีนจึงสำคัญสำหรับเด็ก?
การเรียน นับเลขภาษาจีน มีความสำคัญมากในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของ การนัดหมาย หรือการจองต่างๆ และยังช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมและคำสแลงบางอย่างของจีน
การนับเลขภาษาจีน มีหลักการหรือข้อยกเว้นอะไรบ้าง?
มีหลักการที่คล้ายการนำตัวเลขมาประกอบกัน แต่ก็มีข้อยกเว้น เช่น การใช้ yāo
(เยา) แทน yī
(อี) ในเบอร์โทรศัพท์ หรือการใช้ liǎng
(เหลี่ยง) แทน èr
(เอ้อร์) เมื่อบอกจำนวน
สามารถนำการนับเลขภาษาจีนไปใช้ในสถานการณ์จริงได้อย่างไร?
สามารถใช้ในการซื้อขาย การบอกจำนวน วันที่และเวลา หรือการระบุลำดับสิ่งของต่างๆ ทำให้การสื่อสารในภาษาจีนเป็นไปอย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ