- การเล่านิทาน (Storytelling) มีลักษณะอย่างไร
- นิทานภาษาอังกฤษฝึกภาษาได้จริงหรือไม่?
- นิทานภาษาอังกฤษมีประโยชน์ต่อลูกน้อยอย่างไร
- นิทานเรื่องลูกหมูสามตัวภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
- นิทานเรื่องราชสีห์กับหนูภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
- นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
- นิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
- สรุป
นิทานภาษาอังกฤษสั้นๆ พร้อมคำอ่าน เสริมสร้างทักษะภาษาให้ลูกน้อย
ทักษะการเรียนรู้เสริมสร้างได้ด้วยการฝึกฝน ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น การฝึกภาษาก็เช่นกัน โดยการฝึกภาษาอังกฤษในเด็กเล็กไม่ควรเน้นในด้านวิชาการมาก แต่เน้นให้เด็กคุ้นชินกับภาษาเสมือนภาษาไทยที่มีการฝึกใช้มาตั้งแต่เด็ก สำหรับผู้ปกครองที่มีลูกน้อยวัยกำลังเรียนรู้ การเสริมสร้างทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมาก มาดูกันว่าการให้ลูกน้อยเรียนรู้นิทานภาษาอังกฤษพร้อมคําอ่าน และคําแปล ช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ และการเล่าเรื่องราวอย่างไร พร้อมตัวอย่างนิทานภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ
การเล่านิทาน (Storytelling) มีลักษณะอย่างไร
การเล่านิทาน (Storytelling) คือ การเล่าเรื่องราวเพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ด้วยวิธีการพูด และการเขียนเป็นหลัก โดยเน้นให้ผู้ฟังได้รับประสบการณ์ร่วม มีอารมณ์ร่วม หรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกัน รวมถึงเข้าใจในเนื้อหาของสิ่งที่ผู้สื่อสารต้องการจะสื่อ
นอกจากนี้ การเล่านิทานมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้คนเกิดความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ตลอดจนใช้เพื่อการเรียนการสอนให้แก่เด็กน้อย โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชีวิต และคำสอนต่างๆ เพื่อให้เด็กสามารถรู้เท่าทันโลกมากขึ้น
นิทานภาษาอังกฤษฝึกภาษาได้จริงหรือไม่?
ภาษาอังกฤษถือว่าเป็นภาษาที่สำคัญมากในบริบทโลก เราต่างคุ้นชินกับการเรียนภาษาที่สอดแทรกไปด้วยเนื้อหาวิชาการ และไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง การฝึกภาษาให้เด็กเล็กผ่านนิทานภาษาอังกฤษสั้นๆ พร้อมคำอ่าน ถือว่าเป็นวิธีการที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการอ่าน สร้างความคุ้นชินกับประโยค และคำศัพท์ต่างๆ จนสามารถนำกลับมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ นิทานยังทำให้เด็กไม่เครียด สร้างความเพลิดเพลิน ทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มากขึ้น จึงทำให้ทักษะด้านภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เหมือนเป็นภาษาตัวเองเลย
นิทานภาษาอังกฤษมีประโยชน์ต่อลูกน้อยอย่างไร
การฝึกภาษาอังกฤษด้วยการอ่านนิทานช่วยฝึกภาษาได้ดี เนื่องจากนิทานให้ความเพลิดเพลิน เพิ่มความต้องการเรียนรู้ในตัวเด็กมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อีกมากมาย แต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
ประโยคภาษาอังกฤษในนิทานสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
ในนิทานภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ ประกอบไปด้วยเนื้อหาที่เล่าเรื่องด้วยประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เมื่อเด็กมีความคุ้นชินกับประโยค และคำศัพท์ต่างๆ ในนิทานแล้ว การนำออกมาพูดในชีวิตจริงก็เป็นเรื่องง่ายมากขึ้นไปอีก
เด็กๆ สามารถเรียนรู้พฤติกรรมที่ดีผ่านนิทาน
เด็กเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้ และกำลังเลียนแบบพฤติกรรม การสอนให้ลูกเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ตั้งแต่ยังเด็กจึงสำคัญ เพราะในนิทานบางเรื่อง ผู้เขียนมักสอดแทรกคำสอนที่มีประโยชน์ไว้ เพื่อที่เด็กจะได้เรียนรู้พฤติกรรมของตัวละครในนิทาน และเข้าใจว่าควรประพฤติตัวอย่างไรบ้าง หรือมีการกระทำแบบใดที่ไม่ควรทำ
ช่วยเสริมสร้างทักษะการพูด และการอ่านภาษาอังกฤษ
นิทานภาษาอังกฤษสั้นๆ พร้อมคำอ่าน ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีคลังคำศัพท์ และทำให้มีความจำดีขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ การเรียนรู้ประโยค และคำศัพท์ผ่านนิทานจึงเป็นวิธีที่ทำให้เด็กต่อยอดทักษะการอ่าน ทักษะการเขียน และทักษะการพูดได้ดีมากขึ้น ทำให้เด็กที่มีคลังคำศัพท์เยอะ และสามารถนำคำศัพท์ไปประยุกต์ใช้ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่มีคำศัพท์อยู่ในหัวเลย
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ และลูกน้อย
เมื่อพ่อแม่อ่านนิทานให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครอง และลูกน้อยดียิ่งขึ้น เป็นการสร้างการรับรู้ให้กับลูกน้อยสึกว่าตัวเองมีคุณค่า เพราะฉะนั้น นิทานภาษาอังกฤษสั้นๆ พร้อมคำอ่าน จึงไม่เพียงแต่ช่วยฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สถาบันครอบครัวมั่นคงขึ้นอีกด้วย
นิทานเรื่องลูกหมูสามตัวภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
Once upon a time there were three little pigs. One pig built a house of straw while the second pig built his house with sticks. They built their houses very quickly and then sang and danced all day because they were lazy. The third little pig worked hard all day and built his house with bricks.
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลูกหมูสามตัว ลูกหมูตัวแรกสร้างบ้านของตัวเองด้วยฟาง ลูกหมูตัวที่สองสร้างบ้านด้วยไม้ ทำให้สร้างเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยความขี้เกียจจึงใช้เวลาไปกับการเที่ยวเล่น ร้องเพลง และเต้นรำกันกันตลอดทั้งวัน แต่ลูกหมูตัวที่สามสร้างบ้านด้วยอิฐ มันจึงใช้เวลาอย่างขยันขันแข็งในการสร้างบ้านของตัวเองตลอดทั้งวัน จนไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นแบบลูกหมูตัวอื่นๆ ได้
A big bad wolf saw the two little pigs while they danced and played and thought, “What juicy tender meals they will make!” He chased the two pigs and they ran and hid in their houses. The big bad wolf went to the first house then huffed, puffed, and blew the house down in minutes.
วันหนึ่ง มีหมาป่าตัวใหญ่ดุร้ายเห็นลูกหมูสองตัวกำลังเต้นระบำกันอย่างสนุกสนาน มันคิดในใจว่า “เนื้อหมูพวกนั้นน่าจะนุ่มลิ้น คงจะฉ่ำอร่อยไม่น้อย!” ทันใดนั้น หมาป่าจึงไล่จับลูกหมูทั้งสองตัว ลูกหมูต่างพากันไปซ่อนในบ้านของตัวเอง หมาป่าจึงวิ่งไล่ไปยังบ้านของลูกหมูตัวแรกที่ทำด้วยฟาง หายใจเข้า และพรูลมหายใจแค่เพียงไม่นาน บ้านทั้งหลังก็หายไปในพริบตา
The frightened little pig ran to the second pig’s house that was made of sticks. The big bad wolf now came to this house then huffed, puffed, and blew the house down in hardly any time. Now, the two little pigs were terrified and ran to the third pig’s house that was made of bricks.
ลูกหมูตัวแรกตกใจกลัวมาก จึงรีบวิ่งหนีไปซ่อนตัวในบ้านลุกหมูตัวที่สองที่ทำด้วยไม้ ในคราวนี้หมาป่าใช้เวลาอย่างยากลำบากในการทำลายบ้านหลังนี้ แต่ถึงอย่างไร บ้านก็ยังถูกทำลายไปได้ในที่สุด ลูกหมูทั้งสองตัวจึงหันไปพึ่งลูกหมูตัวที่สามที่มีบ้านทำด้วยอิฐ
The big bad wolf tried to huff, puff, and blow the house down, but he could not. He kept trying for hours but the house was very strong and the little pigs were safe inside. He tried to enter through the chimney but the third little pig boiled a big pot of water and kept it below the chimney. The wolf fell into it and died.
ต่อมาหมาป่าก็พยายามพังบ้านหลังนี้ด้วยวิธีเดิมอีก แต่แม้จะใช้ความพยายามมากเท่าไรก็ไม่พอ หมาป่าจึงพยายามแอบเข้ามาทางปล่องไฟของบ้าน ลูกหมูทั้งสามตัวจึงวางแผนต้มน้ำร้อนในหม้อใบใหญ่มาวางไว้ตรงบริเวณใต้ปล่องไฟ ทำให้หมาป่าที่พยายามเข้ามาตกลงในน้ำร้อนจนตายไปในที่สุด
The two little pigs now felt sorry for having been so lazy. They too built their houses with bricks and lived happily ever after.
ลูกหมูสองตัวนึกเสียใจกับความขี้เกียจของพวกมัน จึงพยายามสร้างบ้านด้วยอิฐ และอยู่กันอย่างมีความสุขตั้งแต่นั้นมา
คำศัพท์ที่น่าสนใจ
- Straw (สตรอ) = ฟาง
- Stick (เซอะติ๊ก) = ไม้
- Brick (บริก) = อิฐ
- Tender (เทนเดอะ) = อ่อนนุ่ม
- Juicy (จู๊สซี่) = ฉ่ำ
- Huff (ฮัฟ) = หอบ, ทำให้โกรธ
- Terrified (เทเรอฟาย) = ขวัญเสีย
- Chimney (ชิ๊มนี่) = ปล่องไฟ
นิทานเรื่องราชสีห์กับหนูภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
Once when a Lion was asleep, a little mouse began running up and down upon him; this soon woken the Lion, who placed his huge paw upon him, and opened his big jaw to swallow him.
ณ วันหนึ่ง เมื่อราชสีห์นอนหลับอยู่ มีเจ้าหนูตัวเล็กคอยวิ่งเล่นอยู่บนตัวของสิงโต ทันใดนั้น สิงโตได้ตื่นขึ้น และรีบนำอุ้งมือใหญ่ของตนตะปปเจ้าหนูตัวเล็กไว้เพื่อนำมาเป็นอาหาร
“Pardon, my King, cried the little mouse; forgive me this time, I shall never forget it. Who knows what I may be able to do you a turn some of these days?” The lion was so tickled at the idea of the Mouse being able to help him, that he lifted up his paw and let him go.
“ข้าต้องขออภัยด้วยท่านเจ้าป่า ได้โปรดยกโทษให้ข้า แล้วข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย ในวันใดวันหนึ่ง ข้าอาจตอบแทนท่านได้” เจ้าหนูตัวจิ๋วร้องไห้คร่ำครวญพลางร้องขอการให้อภัย ราชสีห์นึกขำ และหัวเราะออกมา แล้วยกอุ้งเท้าออก เพื่อปลดปล่อยเจ้าหนูออกจากพันธนาการ
Sometime after the Lion was caught in a trap and the hunters who desired to carry him alive to the king, tied him to a tree while they went in search of a wagon to carry him on.
หลังจากนั้นไม่นาน เกิดเหตุเมื่อราชสีห์ไปติดกับดักของนายพรานเข้า โดยนายพรานต้องการราชสีห์เพื่อไปถวายแก่พระราชา นายพรานจึงนำราชสีห์ตัวนี้ไปผูกติดกับต้นไม้ต้นหนึ่ง จากนั้นนายพรานจึงไปหารถเพื่อกลับมาบรรทุกราชสีห์ออกไป
Just then the little Mouse happened to pass by, and seeing the sad plight in which the Lion was, went up to him and soon gnawed away the ropes that bound the king of the beasts.
ขณะนั้น เจ้าหนูตัวจิ๋วได้เดินผ่านมา และเห็นภาพอันน่าเศร้าของราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ถูกผูกติดกับต้นไม้ จึงเข้าไปช่วยเหลือราชสีห์โดยการใช้ฟันเล็กๆ ของมันแทะจนเชือกขาด และปลดปล่อยราชสีห์ออกไปได้ในที่สุด
คำศัพท์ที่น่าสนใจ
- Caught (คอช) = จับไว้, ตะครุบ
- Tickle (ทิกเคิ่ล) = ขำขัน
- Wagon (แวกิ่น) = รถบรรทุกสินค้า (สมัยก่อนเทียบด้วยม้า)
- Plight (ไปลช) = ชะตากรรม
- Gnaw (น๊อ) = กัด,แทะ
- Beast (บีสต) = สัตว์ป่า
- Little (เลทเดิ่ล) = เล็ก, น้อย
นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
A Hare was making fun of this Tortoise one day for being slow. “Do you ever get anywhere?” he asked with a mocking laugh. “Yes,” answered the Tortoise,” and that I get there earlier than you think. I will run you a race and prove it.”
กาลครั้งหนึ่ง มีกระต่ายตัวหนึ่งมักล้อเลียนเจ้าเต่าถึงความช้าของมันอยู่เสมอ “แกเคยไปถึงไหนบ้างไหมเนี่ย” กระต่ายถามพร้อมหัวเราะเยาะเจ้าเต่า “แน่นอนสิ” เต่าตอบกลับไป “ฉันไปถึงตรงนั้นได้เร็วกว่าที่แกคิดอีก ฉันจะวิ่งแข่งกับแก ลองดูไหม?”
The Hare was considerably amused at the concept of conducting a race with all the Tortoise, but also for the pleasure of this thing he consented. So the Fox, who had agreed to serve as judge, marked the space and began off the runners.
เจ้ากระต่ายนึกตลกกับความคิดของเจ้าเต่า แต่เพื่อความสนุกกระต่ายจึงตอบตกลงแข่งไป โดยมีสนัขจิ้งจอกเป็นกรรมการตัดสินให้ เริ่มจัดการขีดเส้นจุดเริ่มต้นและเส้นชัย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน
The Hare was soon far from sight, and also to make the Tortoise feel quite deeply how absurd it was for him to attempt a race with a Hare, he lay down with the path to having a rest before the Tortoise must catch up.
เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น กระต่ายเริ่มวิ่งไปไกลสุดลูกหูลูกตา และทำให้เจ้าเต่านึกเสียใจที่ไปท้าทายกระต่ายเข้า กระต่ายแน่นอนใจ ล้มนอนลงข้างทางเพื่อรอให้เจ้าเต่าตามมาทัน
The Tortoise meanwhile kept moving slowly but steadily, and, after a moment, passed the location where the Hare had been sleeping. However, the Hare went quite peacefully and if at last, he’d awaken, the Tortoise was close to the objective. The Hare currently conducted his swiftest, but he couldn’t overtake the Tortoise punctually.
ในขณะเดียวกัน เจ้าเต่ายังคงตั้งใจใช้แรงของตัวเองเดินต่อไปอย่างช้าๆ อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดเจ้าเต่าก็เดินมาถึงจุดที่กระต่ายนอนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น กระต่ายก็ยังคงไม่กระตือรือร้นที่จะไปถึงเส้นชัย และนอนอย่างสบายใจ เมื่อกระต่ายตื่นมาก็เห็นเจ้าเต่าเดินไปเกือบถึงเส้นชัยแล้ว กระต่ายจึงรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็ไ่ม่สามารถตามเจ้าเต่าทันได้แล้ว ทำให้เจ้าเต่าชนะการแข่งขันครั้งนี้ไปได้ในที่สุด
คำศัพท์ที่น่าสนใจ
- Amuse (อะมิวซ) = ทำให้สนุกสนาน
- Catch up (แคช อัพ) = คว้า
- Consent (เคินเซนท) = การอนุญาต
- Judge (จัจ) = ผู้ตัดสิน (กีฬา)
- Laugh (ลาฟ) = หัวเราะ
- Mock (มอค) = เยาะเย้ย
- Steadily (สเทดดิลี) = อย่างมั่นคง
นิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน
There was once a sweet little maid who lived with her father and mother in a pretty little cottage at the edge of the village. At the further end of the wood was another pretty cottage and in it lived her grandmother.
กาลครั้งหนึ่ง มีสาวน้อยคนหนึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในกระท่อมท้ายหมู่บ้าน และถัดไปจากป่านี้มีบ้านอีกหลังหนึ่งคือบ้านคุณยายของสาวน้อยคนนี้
Everybody loved this little girl, her grandmother perhaps loved her most of all and gave her a great many pretty things. Once she gave her a red cloak with a hood which she always wore, so people called her Little Red Riding Hood.
ทุกคนในครอบครัวรักเธอ และยายของเธอก็รักเธอมากกว่าใครๆ คุณยายมักมอบของขวัญสุดแสนพิเศษให้กับเธอเสมอ โดยเฉพาะเสื้อคลุมหมวกสีแดงที่เธอมักสวมใส่มันไปไหนมาไหนอยู่เสมอ ทำให้ใครๆ ต่างก็เรียกเธอว่า “หนูน้อยหมวกแดง”
One morning Little Red Riding Hood’s mother said, “Put on your things and go to see your grandmother. She has been ill; take along this basket for her. I have put in it eggs, butter and cake, and other dainties.”
เช้าวันหนึ่ง แม่ของหนูน้อยหมวกแดงบอกกับเธอว่า “เตรียมตัวให้เรียบร้อย และไปเยี่ยมคุณยายนะลูก ท่านกำลังป่วยอยู่ ลูกนำตะกร้าใบนี้ไปให้คุณยาย ในนั้นมีทั้งไข่ เนย ขนม และเค้ก รวมถึงของอร่อยๆ อีกมากมาย”
It was a bright and sunny morning. Red Riding Hood was so happy that at first she wanted to dance through the wood. All around her grew pretty wild flowers which she loved so well and she stopped to pick a bunch for her grandmother.
เช้าอันสดใส หนูน้อยหมวกแดงมีความสุขมาก ขณะเดินไปเธอเต้นรำ ชื่นชมความสวยงามของดอกไม้ และป่าเขียวขจี และเธอเก็บดอกไม้ไปฝากคุณยายด้วย
Little Red Riding Hood wandered from her path and was stooping to pick a flower when from behind her a gruff voice said, “Good morning, Little Red Riding Hood.” Little Red Riding Hood turned around and saw a great big wolf, but Little Red Riding Hood did not know what a wicked beast the wolf was, so she was not afraid.
หนูน้อยหมวกแดงประหลาดใจและหยุดเก็บดอกไม้เพียงชั่วครู่เมื่อได้ยินเสียงทักทาย “สวัสดียามเช้าหนูน้อยหมวกแดง” เธอไม่ได้ตกใจกลัวมากนัก เนื่องจากไม่รู้ว่าหมาป่าเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย
“What do you have in that basket, Little Red Riding Hood?”
“อะไรอยู่ในตะกร้าหรือ” หมาป่าถาม
“Eggs and butter and cake, Mr. Wolf.”
“มีไข่ไก่ เนย และเค้กค่ะคุณหมาป่า” หนูน้อยหมวกแดงตอบ
“Where are you going with them, Little Red Riding Hood?”
“แล้วหนูกำลังเอาไปไหนหรือ?” หมาป่าถามต่อ
“I am going to my grandmother, who is ill, Mr. Wolf.”
“หนูกำลังเอาไปให้คุณยายค่ะ ท่านกำลังป่วย”
“Where does your grandmother live, Little Red Riding Hood?”
“ยายของเจ้าอยู่ไหนหรือ?”
“Along that path, past the wild rose bushes, then through the gate at the end of the wood, Mr. Wolf.”
“เดินผ่านไปทางทุ่งดอกกุหลาบ ทะลุเข้าไปตรงท้ายป่าค่ะคุณหมาป่า”
Then Mr. Wolf again said “Good morning” and set off, and Little Red Riding Hood again went in search of wild flowers.
จากนั้นหมาป่ากล่าวทักทาย “อรุณสวัสดิ์” อีกครั้ง และจากไป หนูน้อยหมวกแดงจึงเก็บดอกไม้เพื่อไปฝากคุณยายต่อ
At last he reached the porch covered with flowers and knocked at the door of the cottage.
ในที่สุด หมาป่ามาถึงระเบียงบ้านคุณยายที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ และเคาะประตูกระท่อม
“Who is there?” called the grandmother.
“นั่นใครหรือ” คุณยายถาม
“Little Red Riding Hood,” said the wicked wolf.
“หนูน้อยหมวกแดงค่ะ” หมาป่าตอบ
“Press the latch, open the door, and walk in,” said the grandmother.
“กดสลักประตูแล้วเข้ามาได้เลยจ้า” คุณยายตอบ
The wolf pressed the latch, and walked in where the grandmother lay in bed. He made one jump at her, but she jumped out of bed into a closet. Then the wolf put on the cap which she had dropped and crept under the bedclothes.
หมาป่ากดสลักประตู และเดินตรงไปยังเตียงคุณยาย กระโจนเข้าใส่คุณยาย แต่คุณยายกลับหนีรอดหลบไปยังอีกห้องหนึ่งได้ จากนั้น หมาป่าหยิบหมวกที่คุณยายทำหล่นไว้มาสวมรอย และคลานเข้าไปอยู่ใต้ผ้าคลุมเตียง
In a short while Little Red Riding Hood knocked at the door, and walked in, saying, “Good morning, Grandmother, I have brought you eggs, butter and cake, and here is a bunch of flowers I gathered in the wood.” As she came nearer the bed she said, “What big ears you have, Grandmother.”
หลังจากนั้นไม่นาน หนูน้อยหมวกแดงเคาะประตู และเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกล่าวทักทาย “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณยาย หนูเอาไข่ เนย เค้ก และช่อดอกไม้ที่หนูเก็บมาจากป่าค่ะ” เมื่อเธอเข้ามาใกล้เตียง หนูน้อยหมวกแดงก็ถามขึ้นว่า “ทำไมคุณยายหูใหญ่จังคะ”
“All the better to hear you with, my dear.”
“จะได้ยินเสียงหลานชัดๆ ยังไงล่ะจ๊ะ”
“What big eyes you have, Grandmother.”
“ทำไมตาคุณยายโตจังคะ?”
“All the better to see you with, my dear.”
“จะได้เห็นหลานชัดๆ ยังไงล่ะจ๊ะ”
“But, Grandmother, what a big nose you have.”
“แต่…ทำไมจมูกคุณยายโตจังคะ?”
“All the better to smell with, my dear.”
“จะได้ดมกลิ่นหลานได้ดีไงล่ะจ๊ะ”
“But, Grandmother, what a big mouth you have.”
“แต่ว่า…ทำไมปากคุณยายใหญ่จังคะ”
“All the better to eat you up with, my dear,” he said as he sprang at Little Red Riding Hood.
“จะได้กินหลานได้เต็มปากเต็มคำไงล่ะจ๊ะหลานรัก” หมาป่าตอบพร้อมกระโจนเข้าใส่หนูน้อยหมวกแดง
Just at that moment Little Red Riding Hood’s father was passing the cottage and heard her scream. He rushed in and with his axe chopped off Mr. Wolf’s head.
ทันในนั้นเอง พ่อของหนูน้อยหมวกแดงที่กำลังเดินผ่านมายังกระท่อมได้ยินเสียงลูกสาวตัวเอง เขาจึงรีบเข้าไป และใช้ขวานฟันเข้าไปที่หัวของหมาป่า
Everybody was happy that Little Red Riding Hood had escaped the wolf. Then Little Red Riding Hood’s father carried her home and they lived happily ever after.
ทุกคนดีใจที่หนูน้อยหมวกแดงหนีรอดมาได้ พ่อของเธอจึงพาเธอกลับบ้าน และใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
คำศัพท์ที่น่าสนใจ
- Edge (เอช) = ริม,ขอบ
- Cloak (โคลก) = เสื้อคลุม
- Dainty (เดนทิ) = งดงาม
- Gruff (กรัฟ) = เสียงแหบ
- Wicked (วิคเคด) = ชั่วร้าย
- Porch (พอรช) = เฉลียง, ระเบียง
- Latch (แลช) = สลักประตู, กลอน
- Bedclothes (เบดโคลส) = ผ้าปูที่นอน, ผ้าคลุมเตียง
- Chop (ช๊อป) = ฟัน, สับ
สรุป
การเล่านิทาน คือ การเล่าเรื่องราวเพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ผ่านเรื่องเล่าด้วยวิธีการพูด และการเขียนเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วม และเข้าใจในเนื้อหาของสิ่งที่ผู้สื่อสารต้องการสื่อ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้คนเกิดความบันเทิง และใช้เพื่อการเรียนการสอนให้แก่เด็กน้อย โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชีวิต และคำสอนต่างๆ เพื่อให้เด็กสามารถรู้เท่าทันโลกมากขึ้น ดังนั้น นิทานภาษาอังกฤษพร้อมคำอ่าน คำแปล จึงช่วยให้เด็กรอบรู้ทั้งในด้านภาษาอังกฤษ หลักการใช้ชีวิต และหลักคำสอนของสิ่งที่ผู้เขียนนิทานต้องการสื่อออกมา
หากสนใจเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเสริมทักษะภาษาให้ลูกน้อย SpeakUp Language Center ช่วยได้ เพราะเราคือสถาบันการเรียนภาษาที่จะช่วยฝึกฝนพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น มีความสนุกสนาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการประยุกต์ใช้การเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori) โดยครูผู้สอนมืออาชีพที่มีประสบการณ์ และเทคนิคเฉพาะในการสอนภาษาสำหรับเด็กเล็ก
หมวดหมู่
- Blog (52)
- Uncategorized (1)
โพสต์ล่าสุด
- เลี้ยงลูกแบบ BLW ฝึกให้ลูกน้อยจับอาหารกินด้วยตัวเอง ทำได้อย่างไร
- Leadership คืออะไร และเทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีทักษะการเป็นผู้นำ
- ศิลปะการตัดกระดาษจีน กิจกรรมฝึกฝนสมาธิง่ายๆ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรม
- รวม 100 ประโยคกล่าวคำชื่นชมภาษาอังกฤษ ไว้ชื่นชมคนแบบไม่ซ้ำกัน
- รู้จักทฤษฎี Constructivism สอนเด็กให้กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก